โรคไข้เลือดออก ภัยร้ายที่ต้องระวังจากยุงช่วงหน้าฝน

โรคไข้เลือดออกเกิดจากเชื้อไวรัสจากยุงลายกัด ฤดูฝนแบบนี้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงชั้นดี  ควรตรวจสอบบริเวณรอบๆ ที่อยู่อาศัย อย่าให้มีน้ำขัง ( Dengue fever )

ฤดูฝนมาถึงแล้ว โรคยอดฮิตที่มากับฝนก็คือโรคไข้เลือดออกที่มียุงลายเพศเมียเป็นพาหะนำโรค ถ้าเป็นในระดับรุนแรงอาจทำให้ร่างกายเกิดอาการช็อก เเละมีโอกาสเสียชีวิตได้

อาการของผู้ป่วยไข้เลือดออก

ปกติแล้วผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายคลึงไข้หวัดแต่มีความรุนแรงมากกว่า คือ อ่อนเพลีย มีไข้สูง ปวดศีรษะอย่างมาก ปวดเมื่อยตามร่างกาย ในผู้ป่วยบางรายจะมีอาการอาเจียน และมีผื่นสีแดง หรือรอยจ้ำเป็นเลือดเกิดขึ้นตามผิวหนังร่วมด้วย สำหรับอาการในเด็กและผู้ใหญ่มักจะมีอาการไม่ต่างกัน แต่เด็กจะมีโอกาสที่จะมีอาการในระดับรุนแรงมากกว่าผู้ใหญ่ ด้วยสาเหตุนี้เราจึงควรเฝ้าระวังหากเด็กเป็นโรคไข้หวัดใหญ่อย่างใกล้ชิด

ในระดับรุนแรงอาจทำให้ร่างกายเกิดอาการช็อก มีผลให้ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ปัสสาวะน้อยลง มีอาการกระสับกระส่ายมือเท้าเย็น และวัดชีพจรไม่ได้ในระดับอาการนี้ผู้ป่วยจะค่อย ๆ มีอาการดีขึ้นภายในเวลา 1 สัปดาห์ และค่อย ๆ หายดีในที่สุด

สัญญาณเตือนและอาการของโรคไข้เลือดออก

โรคไข้เลือดออกติดต่อจากคนสู่คน โดยมียุงลาย เป็นพาหะที่สำคัญ โดยหลังจากที่ถูกกัดประมาณ 3-8 วัน ก็จะเริ่มมีอาการของไข้เลือดออกเกิดขึ้น ดังนี้

• มีไข้สูงเกือบตลอดเวลา
• มีผื่นแดงหรือจุดเลือดออกตามตัว
• ปวดศีรษะ
• ปวดกล้ามเนื้อ ปวดเมื่อยตามตัว หรือปวดกระดูก
• เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
• ปวดท้องบริเวณชายโครงด้านขวา
• หากมีอาการรุนแรงอาจเกิดเลือดออกผิดปกติ และอาการช็อกได้

ซึ่งส่วนมากผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง เช่น มีเลือดออกมากผิดปกติหรือมีอาการช็อก ส่วนใหญ่มัก จะเกิดจากการติดเชื้อซ้ำ เนื่องจากผู้ที่ติดเชื้อซ้ำจะมีอาการรุนแรงมากกว่า

จะรู้ได้อย่างไรว่าเราเสี่ยงไข้เลือดออก

สามารถสังเกตได้ด้วยตัวของเราเอง หากเรามีอาการปวดหัว มีไข้สูงอย่างรวดเร็ว หรือมีจุดสีแดงตามร่างกาย หากมีอาการในลักษณะนี้เราแนะนำให้ท่านควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย เช่น การตรวจเลือด ตรวจความดันโลหิต ร่วมกับการซักประวัติ เป็นต้น

ไข้เลือดออกเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกีมียุงลายเป็นพาหะนําโรค มักระบาดในฤดูฝนซึ่งพบเป็นอันตรายได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่  ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันเวลา ผู้ป่วยจะมีอาการช็อครุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้ เพราะในปัจจุบันมีเพียงรักษาตามอาการเท่านั้นยังไม่มียาต้านไวรัสเฉพาะ โดยการรับประทานยาพาราเซตามอล เมื่อมีไข้ ดื่มน้ำปริมาณมากกว่าปกติทั้งนี้เมื่อเวลาฝนตกควรกำจัดลูกน้ำยับยั้งวงจรแพร่พันธุ์ของยุงตามบริเวณน้ำขัง ทั้งในภาชนะและที่เป็นบ่อ แอ่งไม่ว่าจะใช้ทรายอะเบท เลี้ยงปลาหางนกยูง หรือใช้ฝาปิดถ้วย ถัง กะละมังต่างๆ ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการถูกยุงกัดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นอกจากจะทำให้คัน บวม แดง เกาจนแผลแล้ว ยังไม่สามารถรับรู้ว่ามันมีเชื้อหรือไม่ สวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด สีไม่เข้มจนเกินไปติดมุ้งลวด ตามบริเวณหน้าต่าง ประตู หรือจะกางมุ้งเวลานอนหลับก็ได้

ความน่ากลัวของโรคไข้เลือดออก ก็คือหากเป็นแล้วสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ เพราะเชื้อไวรัสเดงกี นั้นมีทั้งหมด 4 สายพันธุ์  คือ

 DENV-1, DENV-2, DENV-3 DENV-4 โดยมียุงลายตัวเมียเป็นพาหะนำโรคมาสู่คน

 การป้องกัน มีดังนี้

1. หมั่นดูแลความสะอาดบริเวณรอบบ้าน ไม่ให้มีน้ำขังตามภาชนะ แอ่งดินที่แหล่งน้ำท่วมขังได้ง่าย
2. ฉีดยาพ่นไล่แมลง 
3. เลี้ยงปลาหางนกยูงในบ่อน้ำ
4. ทิ้งขยะให้เป็นที่ มัดปากถุงให้มิดชิด ไม่สร้างแหล่งเพาะพันธุ์ยุง
5. ตรวจสอบประตู หน้าต่าง ลดช่องทางที่ยุงสามารถเข้ามาในบ้านได้

การรักษาโรคไข้เลือดออก

โรคไข้เลือดออกนั้น เราสามารถรักษาตามอาการ ไม่ให้อาการรุนแรงจนหายดีได้ นอกจากนี้ในปัจจุบันเรามีวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกแล้วโดยผู้สนใจรับวัคซีนควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับวัคซีนตามโรงพยาบาลต่างๆได้

 เนื้อหานี้เหมาะสมกับหมวดหมู่ สุขภาพ