อย่านิ่งนอนใจ ไม่ซักผ้าเช็ดตัวบ่อยๆ เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค

เรื่องใกล้ตัวที่คุณมักมองข้าม การใช้ผ้าเช็ดตัวไปนานๆเเล้วไม่ซักทำความสะอาด รู้หรือไม่ว่าเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคเชื้อเเบคทีเรียชั้นดี  ( towel )

คนส่วนใหญ่มักไม่รู้ว่าการใช้ผ้าเช็ดตัวเเล้วไม่ซัก นอกจากทำให้เกิดกลิ่นอับ กลิ่นไม่พึงประสงค์เเล้ว ยังก่อให้เกิดเชื้อโรคมากมาย เเละยังเสี่ยงต่อโรคผิวหนังด้วย

อย่านิ่งนอนใจ!!! คุณควรซักผ้าขนหนูบ่อยแค่ไหน

อันตรายจากผ้าขนหนูที่ไม่สะอาด เพราะการใช้ผ้าขนหนูแต่ละครั้งเซลล์ผิวที่ตายแล้วจากร่างกาย และแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหนังของเรา จะเกาะติดไปกับผ้าขนหนู ในทางกลับกันเชื้อราที่เกิดจากความชื้น ละอองปัสสาวะ เศษอุจจาระและอื่น ๆ อีกมากมายที่ติดอยู่ที่ผ้าขนหนู ก็อาจจะมาเกาะติดที่ผิวของเราด้วยเช่นกัน ยิ่งถ้าวางผ้าขนหนูไว้ในที่อับชื้น หรือพื้นห้องน้ำ ทั้งที่ยังเปียกหมาด ๆอยู่ ผ้าขนหนูจะเต็มไปด้วยเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งนอกจากจะเช็ดตัวได้ไม่สะอาดแล้ว ยังเสี่ยงต่อโรคทางผิวหนังเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังอาจมีเชื้อแบคทีเรียตัวที่ทำให้เกิดโรคอุจจาระร่วงได้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการติดเชื้อโดยตรงจากการใช้ผ้าขนหนูผืนนี้ไปเช็ดสัมผัสกับตัวเราได้

เพราะฉะนั้น เราควรใช้ผ้าขนหนูไม่เกิน 6 ครั้ง ถ้าอาบน้ำเช้า-เย็น ก็คือ ไม่เกิน 3 วัน หรือถ้าผ้าขนหนูมีกลิ่นอับแล้ว ก็ควรนำไปซักทันที เพราะมีแบคทีเรีย ถึงมีกลิ่นอับ แต่ถ้ายังไม่มีเวลาซัก ก็ควรนำผ้าขนหนูไปผึ่งแดดจัด ๆ ช่วยกำจัดแบคทีเรียและไรฝุ่นได้อยู่ ไม่ควรตากทิ้งไว้ในห้องน้ำ หรือห้องที่ไม่มีอากาศถ่ายเท

ผ้าเช็ดตัวกี่วันซัก ผ้าเช็ดตัวควรใช้กี่ครั้ง เราควรเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวบ่อยแค่ไหน เป็นคำถามที่หลายคนอยากรู้ บางคนซักอาทิตย์ละครั้งบางคนก็ใช้ยาวนานเป็นเดือน บางคนก็อาจจะเปลี่ยนบ่อย ซึ่งผลวิจัยพบว่า ผ้าเช็ดตัวไม่ได้ซักเป็นเวลาเพียงไม่กี่วัน เปรียบเหมือนการเช็ดตัวด้วยโถส้วม หรือ ไม่ต้องอาบน้ำเลยซะยังดีกว่า

6 วิธีง่ายๆในการดูแลผ้าเช็ดตัวของคุณให้สะอาดอยู่เสมอ

• แยกผ้าเช็ดตัวที่ใช้ในส่วนต่างๆออกจากกัน เราแนะนำว่าให้มีอย่างน้อยให้มี 2 ผืน คือผ้าผืนใหญ่สำหรับเช็ดตัว และผ้าผืนเล็กสำหรับเช็ดหน้า 
• ตากให้แห้งทุกครั้งหลังใช้งาน ไม่ควรวางกองทิ้งไว้เพราจะทำให้เหม็นอับได้ 
• ควรซักผ้าเช็ดตัวทุกๆ สัปดาห์เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรค อาจจะดูว่าบ่อยเกินไป แต่จริงๆแล้วเราใช้เช็ดตัวอย่างน้อยวันละ 2-3 ครั้ง เมื่อนับรวมๆ 7 วันก็เกือบ 15 ครั้งแล้ว ซึ่งแต่ละครั้งที่ใช้ก็จะมีแบคทีเรีย เชื้อโรค สิ่งสกปรกสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นทุกควรจะซักและตากทุกครั้งเมื่อมีเวลาว่าง
• แยกซักแยกตาก ควรจะซักผ้าเช็ดตัวอย่างเดียวรวมกัน ไม่ควรซักรวมกับผ้าชนิดอื่นๆ เพื่อป้องกันสีตก ควรนำไปตากแดดบนราวตากผ้าที่เตรียมไว้ ไม่วางหรือผึ่งไว้ตามเก้าอี้เพราะจะทำให้โดนเชื้อโรคแบคทีเรียได้
• วิธีการซักควรดูที่ฉลากสัญลักษณ์ของผ้า เพื่อที่จะซักอย่างถูกวิธี การซักตามวิธีที่ผู้ผลิตแนะนำจะทำให้คงคุณภาพของผ้าไว้ได้นาน ไม่เสียหายหรือเสื่อมคุณภาพไปได้ง่ายๆ เพราะผ้าบางชนิดไม่สามารถใช้ร่วมกับน้ำยาปรับผ้านุ่มได้
• เลือกซื้อผ้าเช็ดตัวให้เหมาะสมกับการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ ในกรณีที่เดินทางบ่อยๆ ก็ควรเลือกผ้าเช็ดตัวแห้งเร็ว น้ำหนักเบา พกพาสะดวกอย่างผ้าเช็ดตัวนาโนเป็นต้น หรือถ้าใช้ในยามออกกำลังกาย ก็ควรเลือกที่สามารถช่วยปกป้องแบคทีเรียได้มากเป็นพิเศษ แห้งง่าย และไม่อมน้ำ

การตากผ้าขนหนู

การตากให้แห้งสนิทถือเป็นหัวใจของการดูเเลรักษาผ้าขนหนู เพราะถ้าปล่อยให้ชื้นนานอาจทำให้เกิดกลิ่นอับเเละขึ้นราได้ จึงเป็นวิธีกำจัดราบนผ้าเช็ดตัวที่ดี

• เเนะนำให้ใช้ราวตากผ้า นำผ้าขนหนูไปตากที่ราวทุกครั้งหลังใช้เสร็จ เหยียดผ้าออกและจัดให้ตึงเพื่อให้อาการหมุนเวียนผ่านผ้าได้ง่ายและผ้าแห้งอยู่ตลอด
• หลังซัก ควรตากผ้าในที่ร่มลมโกรกบนราวตากผ้า เหยียดผ้าออกไม่ให้ทับซ้อนกัน หรือถ้าตากกลางแจ้ง ไม่ควรปล่อยให้ผ้าโดนแดดแรงๆ ทั้งวัน เพราะจะทำให้เส้นใยผ้าขนหนูของคุณแห้งจนกรอบและเก่าเร็ว   
• ถ้าใช้เครื่องอบแห้ง ก่อนใส่ลงเครื่องอบผ้า ควรสะบัดผ้าเบาๆ เพื่อให้เส้นใยผ้ายืดเต็มที่เเละรักษาความนุ่มฟูของผ้า เลือกอุณหภูมิร้อนปานกลาง และใส่ลูกเทนนิสลงไปตอนอบ 1-2 ลูก แม้จะฟังดูแปลกๆ แต่วิธีนี้ช่วยให้ผ้าขนหนูกลับมานุ่มฟูได้จริงๆ

 เนื้อหานี้เหมาะสมกับหมวดหมู่ สุขภาพ