กลั้นปัสสาวะบ่อยๆจนเป็นนิสัย เสี่ยงอันตรายโดยไม่รู้ตัว

เชื่อว่าหลายคนต้องเคยอั้นปัสสาวะอยู่บ่อยครั้ง การอั้นเป็นครั้งคราวอาจไม่ส่งผลเสียมากนัก แต่หากอั้นจนติดเป็นนิสัย ร่างกายอาจจะติดเชื้อเเบคทีเรียได้ ( urine )

กลั้นปัสสาวะเป็นเวลานานทำให้ปวดท้อง

การกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน อาจเสี่ยงติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ เนื่องจากเชื้อโรคภายนอกร่างกาย เข้าสู่กระเพาะปัสสาวะทำให้เชื้อโรคสะสมเกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เกิดจากอะไร?

โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ พบมากในผู้หญิง มากกว่าผู้ชาย โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากกระเพาะปัสสาวะติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อโรคเหล่านี้จะมีอยู่มากบริเวณรอบๆ ทวารหนัก สามารถปนเปื้อนผ่านเข้าท่อปัสสาวะและเข้ามาในกระเพาะปัสสาวะได้ 

  • เกิดจากพฤติกรรมการกลั้นปัสสาวะบ่อยๆ ส่งผลให้เชื้อโรคมีการเจริญเติบโตมากขึ้น และมีแรงดันในกระเพาะปัสสาวะที่ทำให้เยื่อบุผิวยึดตัว จนเชื้อโรคฝังตัวอยู่ในกระเพาะปัสสาวะเกิดเป็นการอักเสบ
  • การชำระล้างอวัยวะเพศหญิง ไม่ถูกวิธี หรือไม่ระวัง โดยหลังจากทำธุระเสร็จควรล้างหรือใช้กระดาษชำระเช็ดทำความสะอาดจากด้านหน้าไปด้านหลัง เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคจากบริเวณทวารหนักเข้าสู่ท่อปัสสาวะ

อาการบ่งบอกกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

อาการแสดงที่สำคัญ คือ ปัสสาวะบ่อย แสบขัด อาจบ่อยมากทุกๆ 1-2 ชั่วโมงหรือกระปริบประปรอย หรืออาจแสบขัดมาก จนไม่อยากถ่ายปัสสาวะ อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น

  • ปัสสาวะไม่ค่อยสุด หยด หรือไหลซึมออกมาอีก
  • รู้สึกปวดบริเวณท้องน้อย ขณะปัสสาวะสุด อาจปวดมากแบบบิดเกร็งหรืออาจปวดแบบถ่วงๆ
  • ปัสสาวะมีเลือดหยดออกมาตอนสุดหรือมีเลือดปนในน้ำปัสสาวะ
  • บางรายมีอาการไข้ร่วมด้วย
  • ปัสสาวะขุ่น ปัสสาวะมีกลิ่นเหม็น
  • กลางคืนต้องตื่นลุกขึ้นมาปัสสาวะเกิน 2 ครั้งขึ้นไป

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

การกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน จะทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดี เกิดการสะสมของแบคทีเรียซึ่งนำไปสู่การติดเชื้อได้ง่าย

  • ผู้สูงอายุ เนื่องจากสุขอนามัยบริเวณอวัยวะเพศไม่ดี โดยเฉพาะคนที่ป่วยเป็นโรคที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือในผู้ที่ขาดคนดูแลอย่างใกล้ชิด และไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว ดื่มน้ำน้อย ปัสสาวะจึงแช่ค้างหรือคั่งในกระเพาะปัสสาวะ เชื้อโรคและแบคทีเรียจึงเจริญเติบโตได้ดี
  • สตรีมีครรภ์ เมื่ออายุครรภ์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ศีรษะของทารกในท้องกดดันให้เกิดการคั่งของปัสสาวะในกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะไม่หมด เกิดปัสสาวะแช่ค้างในกระเพาะปัสสาวะ และก่อให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย
  • การดูแลรักษาสุขอนามัยบริเวณอวัยวะเพศไม่ดี โดยเฉพาะผู้หญิงหากทำความสะอาดไม่ถูกวิธี
  • ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ผู้ป่วยที่รับประทานยากดภูมิคุ้มกัน หากควบคุมโรคได้ไม่ดี จะมีโอกาสติดเชื้อได้ง่า
  • การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
  • การสวนล้างช่องคลอดด้วยยาปฏิชีวนะ
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน

มีอาการปวดท้อง ปวดหลัง

สังเกตอาการเตือน คุณอาจเสี่ยง ติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ 

  • ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะกะปริบกะปริบ ปัสสาวะทีละน้อย
  •  ปัสสาวะขุ่น มีตะกอน หรือปัสสาวะมีเลือดปน
  •  รู้สึกปวด แสบ ขัด ตอนปัสสาวะ
  •  มีอาการปวดท้องน้อย ปวดหลัง
  •  มีไข้ หนาวสั่น
  •  ปัสสาวะอาจมีกลิ่นผิดปกติ

วิธีรักษากระเพาะปัสสาวะอักเสบ

วิธีรักษากระเพราะปัสสาวะอักเสบสามารถรักษาได้โดยยาฆ่าเชื้อ ด้วยวิธีกินหรือวิธีฉีดตามแพทย์สั่ง ระยะเวลาประมาณ 3-10 วัน ขึ้นกับความรุนแรงและตัวผู้ป่วย ร่วมกับดื่มน้ำเปล่าบ่อยๆและงดกลั้นปัสสาวะ

การดูแลตัวเองหลังพบแพทย์ของผู้ที่เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

  • แนะนำดื่มน้ำเปล่าบ่อยๆและปริมาณมากกว่าปกติ เพื่อเพิ่มปริมาณปัสสาวะ และเพื่อช่วยขับเชื้อโรคออกไปทางปัสสาวะ 

  • งดกลั้นปัสสาวะ ทำให้เป็นสุขอนามัยที่ดีด้านการขับถ่าย

  • ทำความสะอาดบริเวณท่อปัสสาวะหลังปัสสาวะและหลังมีเพศสัมพันธ์

ในปัจจุบัน โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบพบได้บ่อยมาก โดยเฉพาะผู้หญิงวัยทำงาน ซึ่งอาจเกิดได้หลายปัจจัย รวมถึงการดื่มน้ำน้อย ทั้งนี้ ยังสามารถพัฒนากลายเป็นโรคกรวยไตอักเสบได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นหากมีอาการปัสสาวะบ่อย กะปริดกระปรอย ครั้งละน้อย ๆ มีอาการคล้ายปัสสาวะไม่สุด รู้สึกปวดท้องน้อย ปวดแสบ ขัด ร้อนขณะปัสสาวะ โดยเฉพาะตอนปัสสาวะสุด ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อรักษาอย่างถูกวิธี

เมื่อปัสสาวะเสร็จเเล้วควรทำความสะอาดอย่างถูกวิธี

kanyarat sakunkim

kanyarat sakunkim

2 comments

Andy Anderson

Andy Anderson

March 12, 2022

Mary Williams

Mary Williams

March 12, 2022

Tell us what you think!

You are replying to Mary Williams. You can post a new comment instead.