ดูแลสุขภาพช่วงฤดูหนาว เเบบปลอดภัยไร้โรค

ฤดูกาลที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง ช่วงบรรยากาศปลายปีเเบบนี้ อากาศเริ่มเปลี่ยน อุณหภูมิก็ลดลง ทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทันคงต้องรักษาสุขภาพกันหน่อย ( winter )

ปลายฝนต้นหนาวเเบบนี้ หลายคนอาจชอบเพราะทำให้รู้สึกว่าเย็นสบาย แต่รู้หรือไม่อากาศเช่นนี้จะทำให้ร่างกายป่วยได้ง่ายกว่าปกติ เเละเชื้อไวรัสจะเจริญเติบโตได้ดีในฤดูนี้

วิธีดูแลตัวเอง เมื่อเข้าสู่หน้าหนาว

- ดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำมาก ๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 

-  อยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเท ไม่เข้าไปในที่แออัด มีผู้คนเยอะ เพราะอาจทำให้เสี่ยงหากมีคนกำลังป่วยอยู่

หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่ป่วยเป็นไข้หวัด หรือไข้หวัดใหญ่ และไม่ควรใช้ของ ร่วมกัน เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ จาน ชาม ช้อน  ของใช้ส่วนตัว

- ใส่เสื้อผ้าหนา ป้องกันความหนาวเย็นให้ร่างกาย สวมถุงเท้าหรือผ้าพันคอ ป้องกันอีกชั้นหากไปในที่ที่มีอากาศหนาวมากๆ ช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ

- ดื่มน้ำอุ่นๆ เครื่องดื่มที่มีอุณหภูมิปกติ ทำให้ร่างกายปรับตัวได้ทันกับสภาพอากาศที่เย็น หรือน้ำสมุนไพร เพื่อช่วยการไหลเวียนของโลหิต 

- ล้างมือบ่อย ๆ เนื่องจากเราอาจไปสัมผัสกับเชื้อโรคที่อยู่ตามสิ่งของต่าง ๆ เช่น ราวบันได ลูกบิด ประตู แก้วน้ำ เป็นต้น โดยล้างมือด้วยสบู่ธรรมดา 15-20 วินาที

หรือใช้น้ำยา ล้างมืออื่น ๆ  

- อาบน้ำอุ่น เเต่ไม่ร้อนจนเกินไป ป้องกันผิวแห้งเสียขาดน้ำ ถ้าอากาศหนาวมาก ไม่อาบน้ำนาน ๆ ทำให้ไม่สบายง่าย หลังอาบน้ำควรทาโลชั่นหรือน้ำมันทาผิว ในกรณีที่มีปัญหาริมฝีปากแตก ควรทาด้วยลิปมันบำรุง กักเก็บความชุ่มชื้น

- รักษาผิวชุ่มชื่นอยู่เสมอ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ใช้ช่วงต้นปีอาจรับมืออากาศแห้งที่มากับฤดูหนาวไม่ไหว มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ดี
ควรมีคุณสมบัติทำให้ผิวหนังชุ่มชื่น และช่วยให้ผิวสามารถกักเก็บน้ำไว้ได้

- รับประทานวิตามิน
สำหรับผู้ที่มีร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเมื่อเจอกับอากาศหนาว อาจจะทำให้ร่างกายเจ็บป่วยได้ จึงควรป้องกันด้วย
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์พร้อมๆไปกับการรับประทานวิตามิน เพื่อเป็นการเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
เช่น วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินอี เพราะวิตามินเหล่านี้สามารถช่วยให้ห่างไกลจากการเป็นหวัดได้

โรคยอดฮิตที่มากับฤดูหนาว

อันดับแรกที่หนีไม่พ้นเลยก็คงจะเป็น 

โรคไข้หวัด

1. พบได้ทุกฤดู แต่ฤดูหนาวจะเป็นได้ง่ายและบ่อยขึ้นกว่า 2 เท่า
2. ส่วนมากเกิดจากการติดเชื้อไวรัส ติดต่อจากการสูดละอองฝอยจากการไอจาม
3. อาการ ไอ จาม น้ำมูกใส คัดจมูก ไข้ต่ำ ปวดเมื่อยตามตัว
4. รักษา นอนพักผ่อนมากๆ ดื่มน้ำบ่อยๆ กินยาตามอาการ สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
5. ป้องกัน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ล้างมือบ่อยๆ ไม่คลุกคลีกับผู้ป่วย

โรคไข้หวัดใหญ่

1. เกิดจากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่
2. อาการเหมือนไข้หวัดแต่รุนแรงกว่า ได้แก่ ไข้สูง ปวดเมื่อยตามตัว ปวดศีรษะรุนแรง ไอ น้ำมูก เจ็บคอ อาเจียน ถ่ายเหลว
3. รักษา ควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจและรับยาฆ่าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ กินยาตามอาการ เช็ดตัวลดไข้ นอนพักผ่อนมากๆ
4. ป้องกัน กลุ่มที่มีความเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคเรื้อรัง ควรได้รับวัคซีนไข้หวัด ใหญ่ทุกปี ไม่คลุกคลีหรือใช้ของใช้ร่วมกับผู้ป่วย ล้างมือบ่อยๆ ออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง

โรคอุจจาระร่วง

1. โรคอุจจาระร่วงในฤดูหนาวมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส เช่น โรต้าไวรัส มักพบในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี
2. อาการ ถ่ายเหลว ก้นแดง อาเจียน กินได้น้อย ไข้สูง อ่อนเพลีย
3. รักษา ให้จิบน้ำเกลือแร่เพื่อทดแทนการเสียน้ำ เปลี่ยนอาหารและนมให้ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาลแลดโตส หากกินไม่ได้และมีอาการขาดน้ำ เช่น ปากแห้ง ตาโหล กระหายน้ำ ปัสสาวะน้อยลง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อให้สารน้ำทางหลอดเลือด
4. ป้องกัน หมั่นล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร

การดูแลรักษาสุขภาพในช่วงหน้าหนาวนั้น เป็นเรื่องที่ทุกคนทำได้ไม่ยาก หากเราดูแลตัวเองดี ก็ทำให้ร่างกายเเข็งเเรง
พร้อมรับมือกับทุกสภาพอากาศจะได้ไม่พลาดทริปดีๆ ที่กำลังรอคุณไปสัมผัสในช่วงปลายปีเเบบนี้

 เนื้อหานี้เหมาะสมกับหมวดหมู่ สุขภาพ