วิธีรับมือรถเสีย แก้ปัญหายังไงให้ตรงจุด

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับปัญหารถเสีย  คุณควรมีวิธีการรับมือรถเสียให้ได้มากที่สุด และควรตรวจเช็คสภาพรถและความพร้อมของรถยนต์อยู่เสมอ ( Car breakdown )

Car breakdown

แก้ปัญหารถเสียทำให้หงุดหงิดและเสียเวลา โดยเฉพาะเมื่ออยู่บนท้องถนนและห่างไกลจากช่าง เรามีเทคนิคการแก้ปัญหาเบื้องต้น ที่สามารถช่วยคุณให้รถยนต์กลับสู่สภาพเดิมได้

เทคนิคเบื้องต้นในการรับมือกับปัญหารถเสียอย่างตรงจุด

ตรวจสอบแบตเตอรี่รถ

สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดประการหนึ่งที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติดคือแบตเตอรี่หมดหรืออ่อน ปัญหานี้ ให้ตรวจสอบว่าไฟหน้าของคุณสว่างปกติไหม หรือคุณได้ยินเสียงคลิกเมื่อคุณบิดกุญแจหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น แบตเตอรี่ของคุณอาจต้องจั๊มพ์สตาร์ท ใช้สายจัมเปอร์เพื่อเชื่อมต่อแบตเตอรี่ของคุณกับรถคันอื่น หรือโทรขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน นอกจากนี้ การรักษาขั้วแบตเตอรี่ให้สะอาดและปลอดภัยสามารถป้องกันปัญหาในการสตาร์ทในอนาคตได้อีกด้วย

ตรวจสอบยางรถ

ปัญหาเกี่ยวกับยางอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยของรถคุณอย่างมาก ตรวจสอบยางของคุณเป็นประจำเพื่อหาสัญญาณการสึกหรอ เช่น ความลึกของดอกยางต่ำหรือรูปแบบการสึกหรอที่ไม่สม่ำเสมอ หากคุณสังเกตเห็นตะปู สกรู หรือวัตถุแปลกปลอมอื่นๆ ที่ฝังอยู่ในยาง ให้ซ่อมแซมหรือเปลี่ยนทันที การรักษาแรงดันลมยางที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสมรรถนะและการใช้เชื้อเพลิงที่เหมาะสม ดังนั้นควรตรวจสอบแรงดันลมยางเป็นประจำและปรับตามความจำเป็น

ตรวจเช็คสภาพรถ

บางครั้งปัญหารถเสียอาจจะไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่คิด ซึ่งเราก็น่าจะสามารถที่ระบุปัญหาได้ อย่างขั้วแบตเตอร์รี่หลวม หรือยางแบน ซึ่งบางอย่างเราสามารถทำเองได้เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน แต่มันก็ไม่ใช่จะง่ายทุกครั้งไปซึ่งควรตรวจสอบให้ดีเผื่อจะสามารถระบุปัญหาได้ นอกจากนี้ความรู้ในยามฉุกเฉิน อาจจะช่วยให้เรารอดได้ยิ่งหากเดินทางไกล และรถเสียกลางทาง บนถนนต่างจังหวัด เราควรจะศึกษาการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบคร่าวๆ บ้างซึ่งหากเรารู้ปัญหาแล้ว ก็จะทำให้สามารถแก้ไขได้ง่ายขึ้น

เช็กระยะสม่ำเสมอ

ไม่ว่ารถยนต์คู่ใจของคุณจะเป็นรถใหม่ป้ายแดง หรือรถยนต์ที่ใช้งานมานานแล้วก็ตาม การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องหรือการตรวจสอบชิ้นส่วนต่าง ๆ (อะไหล่รถยนต์) ตามระยะที่กำหนด จะช่วยยืดอายุการใช้งานของตัวรถ และช่วยเพิ่มความปลอดภัย ในการใช้รถใช้ถนนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

เช็คยางรถยนต์

ไม่ว่าคุณจะใช้รถในเมือง หรือออกต่างจังหวัดบ่อย ๆ สิ่งที่ควรทำคือ “ตรวจสอบแรงดันลมยาง” อย่างสม่ำเสมอ ด้วยการเติมลมยางตามคู่มือรถยนต์ อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง นอกจากจะช่วยให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่แล้ว ยังช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นอีกด้วย

ตรวจสอบอะไหล่รถยนต์

 รถเสีย สตาร์ทไม่ติด ปัญหาที่พบบ่อยเกิดขึ้นได้จากอะไรบ้าง

 ปัญหาแรก ๆ ที่มักเกิดขึ้นกับรถคือ รถเสีย สตาร์ทไม่ติด ซึ่งมีด้วยกันหลายสาเหตุ ลองมาดูว่าเกิดจากอะไรได้บ้าง

 ปัญหาจากแบตเตอรี่

แบตเตอรี่รถยนต์ถือเป็นปัญหาแรก ๆ ที่ทำให้รถเสีย สตาร์ทไม่ติด ปกติอายุการใช้งานจะอยู่ราว ๆ 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับความถี่ในการใช้รถ แต่ถ้าเปลี่ยนมาได้ปีกว่า ๆ แล้วอยู่ดี ๆ รถสตาร์ทไม่ติดอาจเป็นไปได้ว่าแบตฯ เสื่อม โดยอาการรถเสียแบบนี้มักเกิดขึ้นในตอนเช้าที่พักรถเอาไว้นาน ๆ แล้วมาสตาร์ทใหม่ วิธีแก้เบื้องต้นคือให้พ่วงสายชาร์จเอาแบตฯ จากรถคันอื่นมาก่อนจากนั้นค่อยนำรถไปเช็คอีกที

ปัญหาจากระบบไฟฟ้า

เป็นปัญหาคล้าย ๆ กับแบตฯ มีปัญหา คือ ระบบไฟฟ้าภายในรถทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้ไม่มีแรงมากพอในการสตาร์ทรถ สังเกตง่ายๆ เช่น ไฟหน้าปัดไมล์รถแสงมืดกว่าปกติ, จอภาพ จอวิทยุ ไฟไม่สม่ำเสมอ หากพ่วงแบตฯ แล้วก็ยังไม่หายแนะนำเข้าศูนย์ตรวจสอบเลย

ปัญหาจากไดชาร์จ 

อาการจะทรงเดียวกับแบตฯ เสื่อม แต่ยังสตาร์ทได้บ้างในบางครั้ง ทว่ารถจะดับทันทีเมื่อเดินรอบต่ำ อาการนี้อาจยังไม่ชัดเจน ถ้าสมมุติว่ารถเสีย สตาร์ทไม่ติด แล้วลองพ่วงแบตฯ ดู พอสตาร์ทสักพักแล้วถอดขั้วข้างหนึ่งออกแล้วรถดับหรือกระตุก แสดงว่ามีปัญหาที่ไดชาร์จแน่ ๆ

ปัญหาจากไดสตาร์ท

เมื่อสตาร์ทไม่ติดแล้วลองเปลี่ยนแบตฯ ลูกใหม่ ปรากฏก็ยังสตาร์ทไม่ติดอีก หรือสตาร์ทแล้วมีเสียงแชะ ๆ  แสดงว่าไม่ได้เป็นที่แบตฯ แต่น่าจะเกิดจากไดสตาร์ทมีปัญหา สาเหตุที่ไดสตาร์ทมีปัญหานั้นเกิดได้หลายกรณี เช่น สายไฟหลุด, ฟิวส์ขาด, แปรงถ่านหมด

นอกจากทั้ง 4 อาการที่กล่าวมาแล้ว อีกสาเหตุที่ทำให้รถเสีย หรือรถสตาร์ทไม่ติดได้อาจมาจากน้ำมันหมด ถึงแม้จะเป็นไปได้ยากแต่ถ้ารถรุ่นเก่า ๆ ที่เกจ์น้ำมันเสีย เกจ์น้ำมันไม่ดี โอกาสเกิดก็เป็นไปได้เหมือนกัน

 รถเสีย โทรไปไหนดี

เมื่อรถเสีย อันดับเเรกคุณควรตั้งสติ เพราะเป็นสิ่งที่ควรมีที่สุดยามที่เกิดเหตุฉุกเฉิน เพราะหากขับขี่อยู่แล้วคุมสติไม่ได้ อาจเกิดอุบัติเหตุทันที หรือถ้าหากรถจอดเสียกลางทางแล้วมัวแต่สติแตก บางทีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจมองข้าม ทำให้แก้ปัญหาไม่ได้นั่นเอง หากแก้ปัญหาเองไม่ได้โทรไปยังอู่รถยนต์หรือบริการรถลาก แต่ถ้าหากไม่แน่ใจ หรืออยู่ในพื้นที่ไม่คุ้นชิน หากรถเสีย โทรหาบริษัทก่อนก็ได้ แล้วเจ้าหน้าที่จะคอยช่วยเหลือ เพื่อให้คุณสบายใจขึ้น ดังนั้นหากเป็นไปได้การเลือกซื้อประกันที่พร้อมให้ความดูแลตลอด 24 ชม. จึงเป็นสิ่งที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาด ประกันรถยนต์ทุกวันนี้มีหลายบริษัท แต่ถ้าคนที่รู้สึกว่าตนเองไม่ได้เก่งเรื่องช่างยนต์อะไร กลัวว่าหากมีปัญหารถเสีย ไม่รู้จะให้ใครช่วย เลือกทำ ประกันรถยนต์แบบนี้ไว้อุ่นใจกว่าหลายเท่าตัว<

ตรวจเช็คสภาพรถทุกครั้งก่อนออกเดินทาง

 

 เนื้อหานี้เหมาะสมกับหมวดหมู่ รถยนต์


kanyarat sakunkim

kanyarat sakunkim

2 comments

Andy Anderson

Andy Anderson

March 12, 2022

Mary Williams

Mary Williams

March 12, 2022

Tell us what you think!

You are replying to Mary Williams. You can post a new comment instead.

บทความที่เกี่ยวข้อง