เทคนิคการดูแลรถใหม่ป้ายแดงสำหรับมือใหม่

รถใหม่ป้ายแดงก็ควรดูแลเอาใจใส่ไม่ต่างกับรถที่มีอายุเยอะ เพื่อให้รถคงสภาพการใช้งานที่ดีไปได้นาน ๆ ( new car )

หลายคนเลือกซื้อรถใหม่ป้ายแดงแทนที่จะซื้อรถมือสอง เพื่อตัดปัญหาจากรถที่ผ่านการใช้งานมาเเล้ว บางคนอาจใช้งานรถใหม่โดยไม่ดูแลเอาใจใส่ ทำให้อาจมีปัญหาเร็วกว่าที่ควร

ทริคการดูแลรถใหม่ป้ายแดงให้ดูใหม่เเละพร้อมใช้งานอยู่เสมอ

ตรวจเช็คระบบไฟส่องสว่างต่าง ๆ

ทั้งไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว ไฟฉุกเฉิน เป็นต้น แน่นอนว่ารถใหม่โอกาสที่ระบบไฟต่าง ๆ เหล่านี้จะเกิดปัญหาขึ้นนั้นค่อนข้างที่จะน้อยมาก ๆ หากแต่ว่าก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ เมื่อคุณหมั่นสังเกตและพบว่าระบบไฟใดทำงานผิดปกติ คุณก็สามารถที่จะเข้ารับการแก้ไขในศูนย์บริการได้ทันการภายในวารันตรีที่ได้รับ ช่วยให้คุณสามารถใช้งานรถได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น เพราะระบบไฟส่องสว่างต่าง ๆ นั้นสำคัญมากในการบ่งบอกทิศทางของรถกับผู้ขับขี่คันอื่น รวมไปถึงยังช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ให้ดีขึ้น 

 ยางรถยนต์ 

ส่วนประกอบของรถที่สัมผัสกับพื้นถนนเพียงอย่างเดียว อย่าลืมที่จะหมั่นตรวจเช็คลมยางอยู่เสมอ ซึ่งหลายคนอาจไม่ทราบว่าเราควรเติมลมยางเท่าใด ซึ่งทางผู้ผลิตรถยนต์ก็ได้แนะนำค่ามาตรฐานแรงดันลมยางของรถของคุณไว้ให้อยู่แล้ว ที่บริเวณด้านขอบประตูฝั่งผู้ขับขี่ โดยแรงดันลมยางจะแตกต่างไปขึ้นกับสเปคล้อและยาง รวมไปถึงการโหลดน้ำหนักบรรทุก และอย่าลืมสังเกตความผิดปกติที่ตัวยางว่ามีรอยเบียด บาด บวม เกิดขึ้นหรือไม่อีกด้วย

เข้าตรวจเช็คระยะรถกับทางผู้ผลิตตามกำหนด 

ด้วยช่างผู้เชี่ยวชาญของศูนย์บริการสามารถช่วยเราค้นหาสิ่งผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นจากการขับขี่ ใช้งานและแก้ไขได้ทันก่อนเกิดความเสียหายขึ้นได้

 ห้องเครื่องยนต์ 

เรียกได้ว่าหลาย ๆ คนที่ซื้อรถใหม่ป้ายแดงหรือแม้กระทั่งรถมือสองก็ตาม แทบไม่เคยที่จะเปิดฝากระโปรงรถขึ้นดูเลย โดยเฉพาะรถใหม่ป้ายแดงเพียงคุณสละเวลาเล็กน้อยเปิดฝากระโปรงรถดูความผิดปกติดูบ้าง อาจช่วยเลี่ยงความเสียหายครั้งใหญ่ได้ ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาเจ้าหนูมาอาศัยในห้องเครื่อง หากหมั่นตรวจเช็คคุณอาจพบได้ก่อนและดำเนินการแก้ไขได้ทันเวลาก่อนจะปล่อยให้เป็นแหล่งที่อยู่ใหม่ของสัตว์ที่ไม่ได้รับเชิญ จนสร้างความเสียหายครั้งใหญ่

 สังเกตความผิดปกติต่าง ๆ 

ไม่ว่าจะเป็นระบบเครื่องยนต์ เกียร์ เบรก และระบบไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในตัวรถ ยกตัวอย่างเช่น ปกติที่ขับรถอยู่มีเสียงอะไรที่ผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ อาการรถในการเข้าเกียร์เปลี่ยนไปหรือไม่ เบรกดังผิดปกติไหม ระบบเครื่องเสียง ระบบปรับอากาศ ยังปกติดีหรือไม่ เปิด ๆ อยู่แล้วดับไปเอง หรือมีอาการค้างหรือไม่ แม้ว่ารถใหม่โอกาสที่จะเกิดปัญหาความผิดปกติต่าง ๆ ขึ้นนั้นน้อยมาก ๆ หากแต่เมื่อพบความผิดปกติได้เร็วก่อนแล้ว และรีบนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อแก้ไข คุณจะได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม

เคล็ดลับดูแลรักษารถยนต์ให้สภาพใหม่เสมอ

• ทำความสะอาดรถเป็นประจำ ถ้าเป็นไปได้เราควรล้างรถยนต์เป็นประจำอย่างน้อย ๆ สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง เพื่อเป็นการชำระล้างสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามรถยนต์หรือติดอยู่บนรถนั้นเอง เพราะถ้าเกิดปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลาเนิ่นนานคราบเหล่านี้อาจฝั่งแน่น และทำให้เกิดความเสียหายต่อรถยนต์ได้
• ตรวจเช็กสภาพยางรถยนต์ อีกหนึ่งขั้นตอนของการดูแลรถยนต์นั้นก็คือ ยางรถยนต์ที่เราต้องหมั่นใส่ใจอยู่เสมอ เพราะระหว่างการเดินถ้าอย่างรถยนต์สภาพดีไม่เสื่อมสภาพก็จะทำให้เวลาขับขี่บนท้องถนนนั้นเกาะติดรถยนต์ดีไม่ลื่น เพิ่มความปลอดภัยทุกการเดินทาง
• ตั้งศูนย์ถ่วงล้อ การตั้งศูนย์ล้อให้ถูกต้องจะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ได้อีกวิธีหนึ่ง เพราะเมื่อพิจารณาให้ดีแล้วการที่เราขับรถยนต์ไปเรื่อย ๆ โดยที่ไม่เคยตั้งศูนย์ถ่วงล้อเลย อาจทำให้ศูนย์ล้อนั้นผิดเพี้ยนไปจากเดิมได้ ซึ่งก็จะทำให้รถยนต์กินน้ำมันมากกว่าปกติ รวมถึงสภาพยางรถยนต์ ที่เสื่อมสภาพเร็วก่อนกำหนดด้วย
• เช็คแบตเตอรี่รถยนต์ ตรวจเช็คแบตเตอรี่เป็นประจำ และหากเจ้าของรถยนต์ตรวจพบเจอรอยแตกร้าวควรรีบเปลี่ยนทันที เพื่อไม่ให้เกิดเหตุสุดวิสัยกลางทาง ในขณะขับรถได้ 
• คู่มือรถยนต์จำเป็นต้องอ่าน หลายคนที่ออกรถป้ายแดงมักจะได้คู่มือการใช้งานรถยนต์มาด้วย แต่เชื่อว่าไม่ควรมีใครให้ความสำคัญมากมายนัก แต่คุณรู้หรือไม่ว่า เราไม่ควรมองข้ามคู่มือประจำรถยต์เพราะในคู่มือจะบอกถึงรายละเอียดต่าง ๆของรถยนต์ของเราไม่ว่าจะเป็นการบำรุงรักษารถยนต์ก็ตาม ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่สำคัญที่จะทำให้รถยนต์ของเรานั้นยืดอายุการใช้งานได้นานยิ่งขึ้น  
• ไม่จอดรถยนต์ตากแดด การนำรถยนต์จอดในที่แสงจัด ๆ เป็นเวลานาน ๆ อยู่เป็นประจำ จะทำให้รถยนต์ของเรานั้นสีเสื่อมสภาพลงไปได้ นอกจากนี้วัสดุที่ทำด้วยยาง ก็จะเสื่อมสภาพเร็วกว่ากำหนดอีกด้วย ฉะน้ันแล้วเพื่อเป็นการรักษารถยนต์ของเราให้คงสภาพที่ดีอยู่เสมอควรเลือกจอดในที่ร่มจะดีที่สุด
• ตรวจเช็กที่ปัดน้ำฝน เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ยิ่งช่วงจะใกล้หน้าฝนต้องยิ่งควรหมั่นตรวจเช็คให้เรียบร้อย เพราะที่ปัดน้ำฝนนั้นเสื่อมสภาพลงช่วงเวลาที่ฝนตกอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ฉะนั้นควรต้องไม่ลืมเช็คที่ปัดน้ำฝนให้เรียบร้อยว่ายังพร้อมใช้งานอยู่หรือไม่ 
• ประกันรถยนต์ หลังจากเรารู้ถึงขั้นตอนการบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้นกันไปแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามนั้นคือการทำประกันรถยนต์ก็เป็นอีกหนึ่งวิธี ที่จะช่วยให้เจ้าของรถรู้สึกอุ่นใจมากยิ่งขึ้น ในเวลาขับบนท้องถนนหากต้องประสบอุบัติเหตุในช่วงที่ไม่คาดคิดก็ยังมีประกันรถยนต์คอยให้ความคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่ป้ายแดง หรือรถเก่าที่ใช้งานแล้วก็ตาม 

ทั้งนี้เจ้าของรถยนต์สามารถเลือกทำประกันรถยนต์ให้ตรงตามความต้องการ ได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็น
ประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ชั้น 2+, ประกันรถยนต์ชั้น 2, ประกันรถยนต์ชั้น 3+ และประกันรถยนต์ชั้น 3 โดยรถยนต์แต่ละช่วงอายุ ก็มีประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกันไปตามสภาพการใช้งาน