กลิ่นปากไม่ใช่เรืองตลก เเต่เป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม

กลิ่นปากทำให้คุณเสียความมั่นใจอยู่ไม่น้อย แถมยังเกิดปัญหาสุขภาพช่องปากตามมา เเละยังบ่งบอกโรคได้อีกด้วย (Dental)

กลิ่นปากเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อคนรอบข้าง ทำลายความมั่นใจของใครหลายๆคนจนทำให้เสียบุคลิก แปรงฟันก็ยังไม่หาย สาเหตุที่แท้จริงแล้วเกิดขึ้นจากอะไร

สาเหตุของกลิ่นปากที่เราอาจมองข้ามไป ก็คือการแปรงฟันที่ไม่สะอาดดี แล้วมีคราบเศษอาหารหลงเหลือ เกิดการสะสมของเเบคทีเรียทำให้เกิดกลิ่นได้ ถ้าเราแปรงฟัน และใช้ตัวช่วยอื่นๆ อย่างแปรงซอกฟัน หรือไหมขัดฟันทำความสะอาดในส่วนที่แปรงเข้าไม่ถึงจนคราบสกปรกหมด กลิ่นปากก็อาจจะหายไปได้

เเต่บางครั้งอาจเกิดจากโรคในช่องปาก ที่ต้องให้ทันตแพทย์ช่วยตรวจสอบ ว่ามีฟันผุ เหงือกอักเสบ คราบหินปูนเยอะหรือมีแผลเกิดขึ้นในปากบ่อยหรือไม่ อาการเหล่านี้ก่อให้เกิดกลิ่นปากได้เช่นกัน นอกจากนี้เเล้วการสูบบุหรี่บ่อยๆ หรือทานอาหารที่มีกลิ่นเเรง เช่น สะตอ กระเทียม เครื่องเทศ ก็เป็นสาเหตุให้มีกลิ่นปากได้เช่นกันนอกจากนี้การดื่มน้ำน้อยเกินไปทำให้แบคทีเรียในช่องปากเจริญเติบโตได้ดี ก็เป็นอีกสาเหตุได้

วิธีดูแลช่องปากเเละลดปัญหากลิ่นปากแบบง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ มีดังนี้

แปรงฟันให้ถูกวิธี

การแปรงฟันให้ถูกวิธี เป็นวิธีลดกลิ่นปากที่สามารถทำได้ทุกวัน โดยทุกคนควรแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ด้วยยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เพื่อขจัดเศษอาหาร และคราบจุลินทรีย์ หรือหากระหว่างวันที่ทานอาหารเสร็จอาจแปรงฟันด้วยก็ได้ เพื่อเพิ่มความมั่นใจเเละลดปัญหากลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์ หากเเปรงฟันเสร็จเเล้วอาจใช้น้ำยาบ้วนปากเพื่อให้ลมหายใจหอมสดชื่นด้วยก็ได้

• วางมุมแปรงสีฟัน 45 องศา ที่บริเวณรอยต่อระหว่างเหงือกและฟัน 
• ถูแปรงไปมาเบาๆ ตามแนวฟัน ถ้าเป็นฟันบน ให้ปัดลงล่าง ถ้าเป็นฟันล่างให้ปัดขึ้นบน
• แปรงให้ทั่วทั้งปาก ทั้งด้านนอก และด้านในของฟัน ทั้งฟันบน และฟันล่างให้สะอาด พร้อมกับแปรงฟันด้านบดเคี้ยวด้วยการถูไปมาตามแนวฟันทั้งซ้าย-ขวาด้วย
• แปรงลิ้น และกระพุ้งแก้มทั้ง 2 ข้าง
• บ้วนปากด้วยน้ำสะอาด

ใช้น้ำยาบ้วนปาก

หลังจากแปรงฟันเสร็จแล้ว ควรใช้น้ำยาบ้วนปาก เพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรียวันละ 2 ครั้ง หรือมากกว่านั้นก็ได้ เพราะว่าน้ำยาบ้วนปากจะช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นปากได้ และยังสามารถช่วยขจัดคราบพลัคที่อาจทำให้เกิดโรคเหงือกอักเสบได้อีกด้วย แต่การใช้น้ำยาบ้วนปากนั้นควรจะใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เพื่อเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนขึ้น

การดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ สามารถช่วยลดเเบคทีเรียในช่องปาก ช่วยล้างแบคทีเรียออกจากน้ำลายในปากได้ ซึ่งหากปล่อยให้ปากแห้ง ก็จะยิ่งทำให้ความเข้มข้นของแบคทีเรียในปากเพิ่มมากขึ้น และทำให้เกิดกลิ่นปากได้ง่ายขึ้น เเละการดื่มน้ำเยอะๆยังช่วยให้สุขภาพดีได้อีกด้วย

พบทันตเเพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปาก

ทุกคนควรพบทันตแพทย์เป็นประจำ อย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพในช่องปากว่ามีความผิดปกติหรือไม่ หากมีส่วนไหนผิดปกติจะได้รีบแก้ไขได้ทันท่วงที การขูดหินปูน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดปัญหานี้ได้ หากได้รับการรักษาตั้งเเต่เเรกลดโอกาสที่จะสูญเสียฟัน หรือปัญหาอื่นๆ ในช่องปาก ค่ารักษาก็จะไม่บานปลายจนน่าปวดหัวอีกด้วย

ลดการรับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรง  

การรับประทานอาหารที่มีกลิ่นเเรงสะสมเป็นเวลานานๆ ทำให้เกิดการสะสมของกลิ่นปากได้ หากเราแปรงฟันไม่สะอาด เมื่อแปรงฟันไม่สะอาดก็เกิดเเบคทีเรียทำให้ปากเหม็นได้ 

เลิกสูบบุหรี่

การสูบบุหรี่นั้นไม่เพียงแต่ทำให้ปากเหม็น แต่ยังทำให้ฟันเหลือง และเสี่ยงต่อการเป็นโรคเหงือกอีกด้วย ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคเหงือกมากขึ้น แถมยังทำให้สุขภาพย่ำแย่ลงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่สูบบุหรี่จึงควรลด หรือเลิกสูบบุหรี่ เพื่อสุขภาพอนามัยช่องปากของตัวเอง

การดูเเลไม่ให้เกิดแผลในช่องปาก

แผลในช่องปากสามารถทำให้เกิดกลิ่นปากได้ เพราะว่าแผลในช่องปากนั้นอาจจะมีหนอง เลือด และของเสียต่างๆ สะสมเป็นจำนวนมากจึงทำให้ส่งกลิ่นแรงมากกว่าปกติ แผลร้อนใน หรือแผลอื่นๆ ในปาก แผลจากการทำฟัน ถอนฟัน ก็สามารถทำให้มีกลิ่นปากได้สังเกตได้ว่าคนที่ถอนฟันมา จะมีกลิ่นปากได้ง่ายกว่าคนปกติ นั่นเพราะว่าการแปรงฟันไม่ถนัดจึงอาจทำให้เศษอาหารติดตามซอกฟันได้ง่ายมากขึ้น จึงเป็นสาเหตุให้ปากเหม็นได้ง่าย

กลิ่นปากไม่ใช่แค่เรื่องความสะอาด แต่กลิ่นปากบอกโรคได้ด้วย

นอกจากปัญหากลิ่นปากจะสามารถบ่งบอกถึงความสะอาดของช่องปากได้แล้ว กลิ่นปากยังสามารถบอกโรคได้อีกด้วย เพราะถ้าหากกลิ่นปากเกิดจากโรคต่างๆ ผู้ที่มีกลิ่นปากจากสาเหตุนี้ก็ต้องรีบเข้าพบทั้งทันตแพทย์และแพทย์ และทำการรักษาให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันอาการแทรกซ้อน หรืออาการต่างๆ ตามมาในภายหลัง โดยปัญหากลิ่นปากนั้นสามารถบ่งบอกได้ถึงโรคต่างๆ ดังนี้

โรคระบบทางเดินหายใจส่วนบน

โรคระบบทางเดินหายใจส่วนบนนั้นจะเริ่มตั้งแต่จมูก คอ ไปจนถึงหลอดลม เช่น ไซนัสอักเสบ ไข้หวัด ช่องหูส่วนกลางอักเสบเฉียบพลัน คออักเสบเฉียบพลัน หรือต่อมทอนซิลอักเสบ เป็นต้น ถ้าหากเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจส่วนบน ลมหายใจที่ออกมาก็จะมีกลิ่นเหม็น และอาจส่งผลให้มีกลิ่นปากได้

โรคระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง

โรคระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง คือ ปอด เช่น โรคปอดเรื้อรัง วัณโรคปอด โรคปอดอักเสบ โรคหลอดลมอักเสบ หรือมะเร็งปอด เป็นต้น ถ้าหากเป็นโรคเกี่ยวกับปอดก็จะทำให้ลมหายใจที่ออกมามีกลิ่นเหม็น และอาจส่งผลให้มีกลิ่นปากได้เช่นกัน

หลายคนอาจจะลองแปรงฟันด้วยยาสีฟันกลิ่นหอมสดชื่นแล้ว แต่ก็ยังมีกลิ่นปากอยู่ดี ต้องเข้าใจว่ายาสีฟันอาจไม่ใช่ทางออกเดียวของเรื่องนี้เสมอไป เราต้องมาดูที่สาเหตุว่าแท้จริงแล้วเกิดขึ้นจากอะไร แล้วแก้ให้ถูกจุด ก็จะลดปัญหานี้ลงได้

สาเหตุของกลิ่นปากที่เราอาจมองข้ามไป ก็คือการแปรงฟันที่ไม่สะอาดดี แล้วมีคราบเศษอาหารหลงเหลือ เกิดการสะสม ทำให้เกิดกลิ่นได้ เมื่อสะสมมากขึ้นเป็นเวลานานๆ ก็เกิดเป็นคราบหินปูน เป็นสาเหตุของกลิ่นปาก เเละโรคเหงือกตามมาได้ ถ้าเราใช้ตัวช่วยอื่นๆ อย่างแปรงซอกฟัน หรือไหมขัดฟันทำความสะอาดในส่วนที่แปรงเข้าไม่ถึง จนคราบสกปรกหมด กลิ่นปากก็อาจจะหายไปได้ 

ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งนั้น มาจากโรคในช่องปาก ที่ต้องให้ทันตแพทย์ช่วยตรวจสอบ ว่ามีฟันผุ เหงือกอักเสบ หินปูนเยอะ หรือมีแผลเกิดขึ้นในปากบ่อยหรือไม่ อาการเหล่านี้ก่อให้เกิดกลิ่นปากได้เช่นกัน ควรพบทันตแพทย์เป็นประจำ อย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน การรักษาสุขภาพช่องปาก ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม

เนื้อหานี้เหมาะสมกับหมวดหมู่ สุขภาพ