การใช้แปรงสีฟันอันเดิมซ้ำๆ อันตรายกว่าที่คิด

คุณรู้หรือไม่ว่าการใช้เเปรงสีฟันอันเดิมซ้ำๆ เป็นเวลานาน มักจะมีแบคทีเรียสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นสาเหตุให้สุขภาพช่องปากตามมา ( toothbrush )

ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุกๆ 3 เดือน

แปรงสีฟันที่ใช้นานเกินไป ปัญหาสุขภาพช่องปากจะตามมามากมาย เพราะมีแบคทีเรียจำนวนมากซ่อนอยู่ และแบคทีเรียอาจเข้าไปในกระแสเลือดได้ผ่านแผลในเหงือกโดยที่เราไม่รู้ตัว

เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หลายคนมองข้ามไป เชื่อว่าหลายคนต้องเคยได้ยินคำแนะนำจาก ทันตเเพทย์ ให้เปลี่ยนแปรงสีฟันทุกๆ 3 เดือนแต่บางคนพอถึงเวลาก็ยังไม่ยอมเปลี่ยน เพราะแปรงสีฟันยังไม่บาน หรือยังใช้ได้อยู่ ซึ่งการทำแบบนั้นอาจส่งผลอันตรายถึงชีวิตได้! เพราะว่าแปรงสีฟันเก่า ถึงแม้จะไม่บาน หรือยังมีสภาพดี แต่สิ่งที่เรามองไม่เห็นก็คือ จำนวนเชื้อโรค และแบคทีเรียที่ซ่อนอยู่ในขนแปรงสีฟัน กว่า 10 ล้านตัว ที่เราอาจมองไม่เห็น

ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันเมื่อไหร่ ทำไมต้องเปลี่ยน

เบื้องต้นของการดูเเลสุขอนามัยในช่องปากที่ดี ทันตแพทย์จะแนะนำให้คุณหมั่นเปลี่ยนแปรงสีฟันทุกๆ 3 เดือน ถ้าคิดคร่าวๆ เเล้วแปรงของคุณผ่านการใช้งานมาเเล้วกว่า 180 ครั้ง (เฉลี่ยจากการแปรงฟัน 2 ครั้ง/ วันอย่างสม่ำเสมอ) ลองคิดดูสิว่าถ้ายิ่งคุณใช้แปรงสีฟันมาเเล้ว 6 เดือนโดยที่ไม่เปลี่ยนเลยแปรงของคุณก็ผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชนไม่น้อยกว่า 360 ครั้ง  

แต่สำหรับสุขอนามัยที่ดีที่สุด คุณหมออยากบอกว่า ทุกๆ ครั้งที่คุณป่วย เป็นหวัด, เป็นไข้, แผลในปาก หรือแม้แต่อาการเจ็บคอ ก็ควรจะเปลี่ยนแปรงสีฟันทันทีเพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ที่ยังคงค้างอยู่บนแปรงสีฟันของคุณ เหตุผลสำคัญก็คือ ระหว่างที่เราไม่สบายมีเชื้อโรคมากมาย เมื่อเราแปรงฟันขณะเราไม่สบายก็เหมือนการแพร่เชื้อโรค ไปสู่แปรงสีฟัน มีทั้งเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย แอบซ่อนอยู่ในขนแปรงสีฟันที่เป็นต้นเหตุของโรคติดต่อ (โรคติดต่อหลายๆชนิดก็มีสาเหตุมาจากการใช้แปรงสีฟันร่วมกันระหว่างบุคคลด้วย)

แต่ถ้าเราใช้แปรงสีฟันนานเกิดกว่า 3 เดือนแล้ว จะเกิดอะไรขึ้น  สิ่งแรกเลย  แปรงสีฟันถือว่าเป็นแหล่งรวม ของเชื้อโรค แบคทีเรีย มากมายหลายชนิด ทำให้เกิดคราบหินปูนสะสมเนื่องจากแปรงสีฟันเสื่อมประสิทธิภาพในการใช้งาน เป็นที่มาของอาการเหงือกอักเสบ เเละเเบคทีเรียที่สะสมอยู่นั้สามารถเข้าสู่ร่างกายของเราได้อย่างง่ายดาย ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเชื้อโรคเหล่านี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายของเราอย่างมากมาย มีคราบพลัคอยู่บริเวณผิวฟัน ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหา ฟันหลือง ไม่ขาวสะอาด และคราบหินปูน ซึ่งเป็นที่มาของปัญหากลิ่นปาก ฟันผุ และด้วยลักษณะของแปรงที่บานเสียรูปทรงนั้น จะเป็นอันตรายต่อเหงือก เป็นสาเหตุของเหงือกอักเสบนั่นเอง 

วิธีสังเกตสภาพแปรงสีฟัน

สังเกตจากรูปร่างขนแปรงที่เปลี่ยนไป แปรงสีฟันที่ใช้งานนานๆ จะเริ่มมีปลายขนแปรงที่บาน มีสีแปรงเริ่มเปลี่ยนไป เเละหนักเข้าถ้ามีการสะสมของเเบคทีเรียมากๆ อาจทำให้แปรงมีกลิ่น ยิ่งถ้าเมื่อไหร่ที่เราเกิดอาการไม่สบาย ป่วย เจ็บคอ เป็นไข้ ติดเชื้อในช่องปากแปรงสีฟันก็เป็นเเหล่งเพาะเชื้อได้อย่างดีเลย

เเปรงสีฟันเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคในช่องปาก

เคล็ดไม่ลับของการเลือก แปรงสีฟัน รวมถึงการเก็บหลังใช้งาน เพื่อช่วยลดการสะสมเชื้อโรค ดังนี้ 

  • ควรเลือกแปรงที่มีขนนุ่มพอดี  ไม่ควรเลือกขนแปรงที่แข็งมาก เพราะอาจจะทำให้ทำให้เกิดแผลในช่องปากได้
  • ทำความสะอาดแปรงสีฟัน ทุกครั้งหลังการใช้งาน เพื่อลดเชื้อ แบคทีเรีย ไม่ให้สะสมอยู่ในแปรงสีฟัน
  • ไม่วางแปรงสีฟัน ไว้ในที่อับชื้น มากจนเกินไป ควรวางแปรงสีฟัน ไว้ในพื้นที่ ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก และตั้งหัวแปรงตั้งขึ้นด้านบนทุกครั้ง  
  • ไม่เก็บแปรงสีฟัน ในกล่องที่ปิดความมิดชิด มากจนเกินไป เพราะจะทำให้แบคทีเรีย เกิดการเจริญเติบโตมากยิ่งขึ้น
  • ไม่ใช้แปรงสีฟัน ร่วมกับผู้อื่น
  • ไม่แปรงฟัน ด้วยความรุนแรง เพราะจะเป็นการทำลายเนื้อฟัน และทำให้เหงือก เกิดเป็นแผลขึ้นได้

สำหรับเแปรงสีฟันเก่าที่เราเปลี่ยนแล้ว ก็ควรจะทิ้งเลยจะเป็นการดีที่สุด เห็นเเล้วใช่ไหมหละว่าการเปลี่ยนแปรงสีฟัน ทุก ๆ 3 เดือน มีความจำเป็นอย่ามัวเเต่เสียดายอยู่เลย เพราะปัญหาช่องปากที่ตามมาเป็นอันตรายกว่าที่คิด แล้วคุณล่ะ เปลี่ยนแปรงสีฟัน ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่กัน 

 เนื้อหานี้เหมาะสมกับหมวดหมู่ สุขภาพ

เพื่อสุขอนามัยที่ดีควรเลือกใช้แปรงสีฟันที่ได้มาตรฐาน

kanyarat sakunkim

kanyarat sakunkim

2 comments

Andy Anderson

Andy Anderson

March 12, 2022

Mary Williams

Mary Williams

March 12, 2022

Tell us what you think!

You are replying to Mary Williams. You can post a new comment instead.

บทความที่เกี่ยวข้อง