อย่าปล่อยให้อาการปวดหลัง มาทำลายชีวิตประจำวันของคุณ

ปวดหลังเป็นปัญหากวนใจที่ต้องรักษาให้หายขาด ไม่งั้นอาจนำมาสู่สัญญาณเตือนของโรคร้าย (back pain)

อาการปวดหลังมีหลายสาเหตุ สามารถเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย โดยทั่วไปเป็นอาการที่ไม่อันตราย แต่อาการปวดที่รุนแรงส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน อาการลักษณะนี้ควรพบแพทย์

อาการปวดหลังเเบบไหนควรพบเเพทย์ หากปล่อยไว้อาจเป็นอันตรายกับการดำรงชีวิตได้

อาการปวดหลังที่ควรพบแพทย์ ปวดหลังเรื้อรังเป็นเวลานานมากกว่า 3 เดือน ปวดหลังรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ทานยาแก้ปวดแล้วไม่หาย ปวดหลังมากจนนอนไม่ได้ รู้สึกตัวตลอดเวลา ต้องตื่นมากลางดึกเพราะปวดหลังปวดหลังจนนั่งหรือยืนนานๆไม่ได้ ปวดหลังร้าวลงมาขามีอาการขาชาหรืออ่อนแรงร่วมด้วย ปวดหลังรุนแรงหลังจากการเกิดอุบัติเหตุมีอาการร่วมอื่นๆ เช่น มีไข้ ปวดท้อง ปัสสาวะผิดปกติ หอบเหนื่อย

ปวดหลังมักเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

อาการปวดหลังส่วนบน

อาการปวดหลังส่วนบน เป็นอาการที่มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการสะพายหรือแบกของหนักๆ หรือแม้แต่การก้มหน้าเล่นโทรศัพท์เป็นระยะเวลานาน ก็สามารถมีอาการเช่นนี้ได้

ปวดหลังส่วนล่าง

การปวดหลังส่วนล่าง อาจมาจากสาเหตุของการนั่งหรือยืนนานๆ เช่น พนักงานออฟฟิศ ที่นั่งทำงานอยู่กับที่เป็นเวลานานๆนั่งท่าเดิมๆซ้ำๆทุกวัน รวมไปจนถึงการที่บุคคลนั้นมีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป หรืออยู่ในภาวะน้ำหนักตัวเกิน จึงทำให้เกิดอาการปวดหลังส่วนล่างขึ้น

ปวดหลังด้านซ้าย

หากคุณมีอาการปวดหลังด้านซ้ายบน อาจมีสาเหตุมาจากการบาดเจ็บบริเวณนั้น เส้นประสาท กล้ามเนื้อ หรือการไม่สบาย มีไข้ ไอ ก็อาจทำให้เกิดการปวดหลังด้านซ้ายได้เช่นกัน ส่วนปวดหลังด้านซ้ายล่าง มักจะมาจากการมีท่านั่ง ท่ายืนที่ไม่เหมาะสม ในบางรายอาจปวดหลังเนื่องจากความเสื่อมที่เกิดขึ้นตามอายุ แม้แต่บุคคลที่กำลังอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือเป็นโรคอ้วน ก็สามารถปวดหลังส่วนนี้ได้เช่นกัน 

ปวดหลังข้างขวา

คนที่มีอาการปวดหลังด้านขวาบน มีสาเหตุมาจากการนั่งทำงานเป็นระยะเวลานาน การเกิดความเจ็บป่วยขึ้นที่อวัยวะต่างๆ เช่น โรคตับ ซีสต์ในรังไข่ นิ่วในไต ฯลฯ หรือปอดมีความผิดปกติก็เป็นไปได้  

ในส่วนของการปวดหลังด้านขวาล่าง บางรายอาจมีปัญหาเรื่องของปวดหลังช่วงเอวก้มไม่ได้ อาจมีสาเหตุมาจากการใช้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นมากจนเกินไป การทำกิจกรรมที่ไม่ถูกสรีระหรือมีท่าทางที่ไม่เหมาะสม การอยู่ในช่วงที่ตั้งครรภ์ มีภาวะน้ำหนักเกิน หรือการเกิดความผิดปกติต่างๆขึ้นในร่างกาย  

ปวดหลังยกของหนัก

หากคุณรู้สึกปวดหลัง หลังจากที่ยกของหนักมา เป็นไปได้ว่า อาการปวดหลังนั้นอาจเกิดจากกล้ามเนื้ออักเสบ ดังนั้นจึงไม่ควรยกของหนักจนเกินไป และหากมีอาการกล้ามเนื้ออักเสบเกิดขึ้น ควรหยุดพักการใช้งานบริเวณนั้นซ้ำ ไม่เช่นนั้นอาจทำให้คุณปวดหลังเรื้อรังเเละต้องใช้เวลาในการรักษา

 วิธีป้องกันเเละรักษาอาการปวดหลัง

• การป้องกันการปวดหลังที่ดีที่สุด สามารถเริ่มได้จากการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของคุณเอง ควรหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะการออกกำลังกายเป็นประจำช่วยให้ระบบกล้ามเนื้อเเข็งแรง มีความยืดหยุ่นดี ข้อมีการเคลื่อนไหวได้ดีไม่มีข้อติด การออกกำลังอาจจะทำได้โดยวิธีง่ายๆ เช่นการเดิน ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ
• ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพราะน้ำหนักตัวที่มากเกินไปเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการปวดหลังได้
• การนั่งหรือยืนให้ถูกท่า เพราะการนั่งหรือการยืนที่ผิดท่าจะทำให้เกิดอาการปวดหลัง เเละไม่นั่งท่าเดิมซ้ำๆเป็นเวลานานส่งผลให้กล้ามเนื้อไม่ได้รับการเคลื่อนไหว ทางที่ดีควรเปลี่ยนอิริยาบถ ลุกขึ้นเดินไปมาบ้าง และขณะทำงานหากปวดเมื่อย ควรหยุดพักและยืด เหยียดกล้ามเนื้อ
• ไม่ควรยกของหนักจนเกินไป การยกของหนักเป็นประจำส่งผลให้กล้ามเนื้อหลังรับน้ำหนักมาก จนเกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบเเละเกิดอาการปวดหลังตามมา
• การรักษาอาการปวดหลังเเบบธรรมดาทั่วไป ก็คือการกินยาแก้ปวด คลายกล้ามเนื้อ หรือการใช้ยาพ่นหรือนวดบริเวณที่ปวด เป็นวิธีที่ใช้กันมากที่สุดในผู้ที่มีอาการปวดหลัง มากกว่าครึ่งของผู้ที่มาพบแพทย์ด้วยอาการปวดหลัง ปวดคอ หรือปวดเอว มักเกิดจากกล้ามเนื้ออักเสบ หรือ การเจ็บบริเวณเส้นเอ็น ซึ่งสามารถดีขึ้นได้ด้วยการให้ยา
• รักษาโดยกายภาพบำบัด การให้ยาควบคู่ไปกับการทำกายภาพบำบัด การทำกายภาพบำบัดภายหลังการผ่าตัดแก้ไขความผิดปกติ วิธีที่ใช้เช่น การนวดกล้ามเนื้อด้วยความร้อนจากเครื่อง ultrasound การให้ความร้อน การกระตุ้นกล้ามเนื้อด้วยไฟฟ้าการฝังเข็ม เป็นวิธีที่นิยมมากในปัจจุบันเนื่องจากเห็นผลเร็ว มีอาการดีขึ้นตั้งเเต่ครั้งเเรกที่ทำการรักษา

• รักษาโรคปวดหลังด้วยการผ่าตัดผ่านกล้อง โรคปวดหลังที่มักต้องรับการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด มักมีสาเหตุหลักๆ คือหมอนรองกระดูกสันหลังทรุดหรือแตก กดทับระบบประสาท กระดูกสันหลังเสื่อมและทรุดตัว ร่วมกับมีหินปูนงอกออกมากดทับระบบประสาท กระดูกสันหลังเคลื่อนตัวอันเนื่องมาจากความเสื่อมของกระดูกหรือจากอุบัติเหตุ มีเนื้องอกในระบบประสาทหรือในกระดูกสันหลัง 

การปวดหลังเป็นโรคยอดฮิตที่ใครๆก็เป็นได้ ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะอาการปวดอาจมีหลายสาเหตุ ดังนั้นเมื่อมีสัญญาณเตือนอาการเหล่านี้ ควรเริ่มป้องกันและหาสาเหตุ เมื่อมีอาการแล้วก็ไม่ควรปล่อยไว้นานจนเรื้อรัง เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงโรคร้ายแรงได้ทางที่ดีเมื่อไม่เเน่ใจควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อการรักษาที่ถูกต้อง

 อ่านเพิ่มเติม : ออฟฟิศซินโดรมปัญหาเรื้อรังที่รักษาได้