ปล่อยสัตว์เลี้ยงอยู่บ้านอย่างไรให้ปลอดภัย

เป็นกังวลถ้าต้องปล่อยสัตว์เลี้ยงไว้เพียงลำพัง หากมีสถานที่ฝากเลี้ยงที่ดีสักแห่ง ให้คุณไปทำธุระได้อย่างสบายใจ(pet care)

วันหยุดยาวนี้คุณคงวางแผนไปเที่ยวไว้เเล้ว หากบ้านไหนไม่มีสัตว์เลี้ยงก็ไม่น่ากังวลใจ แต่บ้านที่มีต้องเตรียมตัวให้ดีว่าจะพาน้องๆร่วมเดินทางไปด้วย หรือจะปล่อยให้อยู่บ้านเพียงลำพัง

หากจำเป็นต้องปล่อยให้น้องอยู่บ้านเพียงลำพัง เจ้าของควรจะต้องเตรียมตัวดังต่อไปนี้

• อาหาร ควรเทในปริมาณที่เพียงพอสำหรับจำนวนชั่วโมงหรือจำนวนวันที่จะไม่อยู่ ไม่ควรเทเผื่อไว้ในปริมาณที่เยอะเกินไปเพราะอาจทำให้อาหารบูดหรือเสียได้ และบางทีอาหารเกิดความชื้น ทำให้น้องๆ ไม่ทาน หรือกินเข้าไปก็อาจทำให้ท้องอืด ท้องเสียได้
• จัดเตรียมสถานที่ขับถ่าย ถือเป็นสิ่งสำคัญเลย ควรมีกระบะทราย แผ่นรองฉี่ ในตำแหน่งที่น้องคุ้นเคยเเละสามารถเข้ามาขับถ่ายได้สะดวกเพื่อสุขอนามัยที่ดี เเละเป็นระเบียบเก็บทำความสะอาดได้ง่าย
• จัดที่อยู่อาศัยให้พร้อม สัตว์เลี้ยงบางตัวชอบนอนในสถานที่เดิมๆเป็นประจำ เจ้าของควรจัดสถานที่สำหรับนอนให้พร้อมเมื่อเวลาเจ้าของไม่อยู่น้องๆ จะได้เข้ามานอนเองได้อย่างรู้สึกปลอดภัยเสมือนได้อยู่กับเจ้าของ
• ฝากคนรู้จักที่ไว้ใจได้ดูแล กรณีที่เจ้าของไม่อยู่เป็นเวลาหลายวัน อาจจะฝากเพื่อน คนในครอบครัว หรือ บุคคลที่ไว้ใจได้แวะเวียนมาคอยดูแล ให้อาหาร และน้ำ เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นหรือไม่ ทางที่ดีควรหาคนมาคอยดูแลจะปลอดภัยสุด

หากจำเป็นต้องเดินทางหลายวัน และไม่สามารถนำสัตว์เลี้ยงไปด้วยได้ แนะนำว่าควรนำมาฝากเลี้ยงที่ สถานที่รับฝากเลี้ยงสัตว์ เเละโรงเเรมสัตว์เลี้ยงเป็นการดีที่สุดเพราะสถานที่รับฝากเลี้ยง จะมีการแยกสุนัขและแมวเป็นสัดส่วน เมื่อเวลามาฝากน้องๆ จะได้ไม่เครียด ปัจจุบันมีสถานที่รับฝากสัตว์เลี้ยงเกิดขึ้นมาหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมว กระต่าย นก หนูแฮมสเตอร์ งู ฯลฯ โดยมีที่พักสะอาดให้เลือกมากมาย มีอาหาร มีของเล่นมีกิจกรรมให้ทำ ช่วยแก้เหงาให้สัตว์เลี้ยงได้เยอะเลย ดังนั้นเจ้าของจึงสบายใจหายห่วงได้เลยว่าสัตว์เลี้ยงที่เรารักจะได้รับความปลอดภัยอย่างเเน่นอน

เกณฑ์การคัดเลือกสถานที่รับฝากสัตว์ที่ดี 

1. สถานที่เลี้ยงต้องสะอาด มีพื้นที่ให้สัตว์เลี้ยงอาศัยอยู่ได้พอสมควร ไม่แออัด ปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวกไม่กักขังสัตว์ให้อยู่แต่ในกรง (น้องหมา น้องแมว) ไม่เช่นนั้นอาจทำให้สัตว์เลี้ยงเกิดความเครียด ไม่กินอาหาร เเละเจ็บป่วยได้
2. ผู้รับฝากเลี้ยงต้องมีความรู้เเละประสบการณ์ ในการดูแลสัตว์ เมื่อเกิดเหตุการณ์จำเป็นเร่งด่วน จะได้แก้ปัญหาได้ทันต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ดูแลอย่างใส่ใจ มีความอ่อนโยน ไม่ปล่อยปะละเลย
3. มีห้อง กรงหรือคอกแยกชัดเจน ไม่เลี้ยงรวมกัน เนื่องจากสัตว์บางตัวมีนิสัยหวงที่ อาจเกิดอาการดุร้าย กัดกันเป็นสิ่งสำคัญมองข้ามไม่ได้เลย เพราะสัตว์เลี้ยงมาจากต่างสถานที่จึงไม่คุ้นกัน หรือ สัตว์เลี้ยงบางตัวกำลังป่วยอยู่อาจจะติดต่อกันได้
4. ราคาไม่เเพงจนเกินไป ถ้าเทียบกับบริการที่ได้รับ ควรพิจารณาสถานที่รับฝากเลี้ยงหลายๆที่ก่อนตัดสินใจ เพื่อเลือกที่ที่ดีที่สุดให้กับสัตว์เลี้ยงของคุณ
5. สามารถติดต่อกับผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงได้ตลอด เพื่อมีการอัพเดตความเคลื่อนไหวในเเต่ละวันของสัตว์เลี้ยงสถานที่รับฝากสัตว์เลี้ยงจึงควรมีบริการเสริมเพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เจ้าของว่า สัตว์เลี้ยงของเรามีความสุข กินอิ่มนอนหลับอยู่อย่างสบายในที่รับฝากสัตว์เลี้ยง 
6. สถานที่รับฝากเลี้ยงต้องมีความน่าเชื่อถือ เเละไว้ใจได้ อาจลองศึกษาอ่านจากรีวิวตามโซเชียลมีเดีย ตามเพจก่อนตัดสินใจเพื่อความปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยงของเรา
7. มีบริการเสริมให้สัตว์เลี้ยง เช่น ตัดเล็บ แปรงขน หรือมีบริการรับส่งนอกสถานที่ เพื่อความสะดวกในการเดินทางกรณีที่เจ้าของไม่สะดวกมารับ-ส่งหากมีระยะทางไกลอาจมีการคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมก็ได้

เคล็ดลับง่ายๆเพียงเท่านี้ ก็ทำให้คุณเจ้าของอุ่นใจคลายกังวล สามารถทำเที่ยวหรือไปทำธุระได้อย่างเต็มที่ หมดห่วงเรื่องไม่มีคนดูแลสัตว์เลี้ยงที่เรารักอีกต่อไป เพราะปัจุบันมีสถานที่รับฝากสัตว์เลี้ยง อยู่มากมายให้เลือกได้ตามความพึงพอใจ นอกจากจะมีคนดูแลสัตว์เลี้ยงเเล้ว ก็ยังมีกิจกรรมต่างๆให้ทำมากมายช่วยคลายเหงา แก้เครียดให้เหล่าสัตว์เลี้ยงได้ดีเหมือนกัน

อ่านเพิ่มเติม : วิธีการเลี้ยงสัตว์ให้มีสุขภาพที่ดี ต้องปฏิบัติอย่างไร