ไรฝุ่นตัวการร้าย อันตรายที่มองไม่เห็น

เคยเป็นไหม อยู่ๆก็เกิดอาการคันตัวโดยไม่ทราบสาเหตุเพราะการละเลยไม่ทำความสะอาดห้อง อาจเป็นที่อยู่ชั้นดีของไรฝุ่นตัวร้าย ( Dust mites )

Dust mites

ไรฝุ่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ ไอ จาม คัดจมูก หายใจติดขัด หรือผื่นคันตามตัว จากอาการอาการของโรคภูมิแพ้ ที่สามารถเกิดได้หลายสาเหตุ ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

ไรฝุ่น (dust mite) เป็นแมลงขนาดเล็ก ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มี 8ขา ไม่มีตา วางไข่คราวละ 20 – 50ฟอง 3สัปดาห์/ครั้ง สามารถปะปนอยู่กับฝุ่นตามพื้นบ้าน ห้องนอน ที่นอน หมอน พรม และเครื่องเรือนต่างๆ โดยชอบอาศัยในที่อับชื้น และอบอุ่น ไรฝุ่นกินเศษผิวหนังและรังแคเป็นอาหาร จากนั้นจะถ่ายมูลไว้ในสถานที่ที่อาศัยอยู่ โดยเฉพาะบนเตียง หรือที่นอน ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของตัวไรฝุ่นและมูลของไรฝุ่น 

ไรฝุ่นทำให้เกิดภูมิแพ้ได้อย่างไร?

คนไทยส่วนใหญ่แพ้ไรฝุ่น ไรฝุ่นจึงเป็นสารก่อภูมิแพ้ที่สำคัญในทางเดินหายใจของเรา โดยไรฝุ่นและมูลที่มันถ่ายออกมาจะกระจายเข้าสู่ทางเดินหายใจของเราทางจมูกไปกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ขึ้นในทางเดินหายใจ ทำให้มีอาการ เช่น คัดจมูก คัน จาม น้ำมูกไหลหายใจไม่ออกไปจนถึงอาการหอบหืดตามมาได้และในบางกรณียังกระตุ้นให้เกิดผื่นภูมิแพ้ที่ผิวหนังได้

ทราบได้อย่างไรว่าเราแพ้ไรฝุ่น?

ผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ในทางเดินหายใจ เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล หายใจไม่ออก จนถึงอาการหอบหืดเป็นๆ หายๆ บ่อย ควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหารสารก่อภูมิแพ้ที่อาจเป็นสาเหตุ โดยการตรวจเลือดหรือการทดสอบทางผิวหนังที่เรียกว่า Skin test

อาการของโรคภูมิแพ้ไรฝุ่น มีอะไรบ้าง?
  • คัดจมูก
  • คันจมูก จาม น้ำมูกไหล
  • คันตา แสบตา เคืองตา น้ำตาไหล
  • คันคอ ไอ
  • คันผิวหนัง เป็นผื่น

สาเหตุของการเกิดไรฝุ่น

เนื่องจากไรฝุ่นสามารถเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ ทำให้สาเหตุของการเกิดไรฝุ่นมีหลายปัจจัย แต่ปัจจัยที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของไรฝุ่น อาทิเช่น

  • กลิ่นอับชื้นที่มาพร้อมกับลมเย็น ตอนเปิดเครื่องปรับอากาศ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่ามีเชื้อโรคแอบแฝง เนื่องจากกลิ่นอับชื้นมักมีต้นตอจากเชื้อโรคที่ออกมาจากช่องระบายความเย็น และแผ่นกรองอากาศของเครื่องปรับอากาศ
  • การไม่ทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ ที่ทำให้มีการสะสมของฝุ่น และเศษอาหาร ที่เป็นอาหารของไรฝุ่น
  • การเลี้ยงสัตว์เลี้ยง ที่ทำให้มีการปล่อยขน และมีการสะสมของอุจจาระ และปัสสาวะ ที่เป็นแหล่งเพาะเชื้อของไรฝุ่น
  • ฝุ่นละออง หรือมลพิษ ในอากาศ ที่เข้ามาในบ้านผ่านทางหน้าต่าง หรือประตู
  • การใช้ผ้าห่มหนา หรือขนสัตว์ ที่เป็นที่อยู่ของไรฝุ่น และเป็นแหล่งสะสมของผงฝุ่น และผิวหนัง

ป้องกัน & กำจัดไรฝุ่นได้อย่างไร ?

1. คลุมที่นอน หมอน หมอนข้างด้วยผ้าคลุมป้องกันไรฝุ่นก่อนที่จะปูที่นอน และใส่ปลอกหมอนที่ใช้ปกติซึ่งผ้าคลุมป้องกันไรฝุ่น จะเป็นผ้าทอด้วยเส้นด้าย ละเอียดและสานกันแน่นมาก จนไรฝุ่นและมูลของไรฝุ่นไม่สามารลอดผ่านได้

2. ซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่มในน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 55-60 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาที สัปดาห์ละ 1 ครั้ง อบผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ปลอกหมอนหลังจากที่นำ ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ปลอกหมอน ไปซักแล้ว การนำไปอบด้วยความร้อนสูงอย่างน้อย 60 องศาเซลเซียส สัปดาห์ละครั้ง ก็จะช่วยฆ่าไรฝุ่นและมูลของไรฝุ่นได้ดียิ่งขึ้น

3. ไม่ควรปูพรมในห้องนอน เพราะพรมเป็นแหล่งที่สะสมไรฝุ่นได้เป็นอย่างดี

4. จัดห้องนอนให้โล่งๆ และเฟอร์นิเจอร์ในห้องควรจะมีน้อยที่สุดไม่เก็บข้าวของไว้ในห้องนอนมากเกินไป เพราะยิ่งมีสิ่งของเยอะ ไรฝุ่นก็จะยิ่งเยอะ เก็บของจุกจิกในกล่องที่มีฝาปิดหรือตู้เก็บของ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมฝุ่น และประหยัดเวลาในการปัดฝุ่น นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่ควรพิจารณาก่อนเลือกหรือนำมาไว้ในห้องนอน 

5. ดูดฝุ่นเป็นประจำ เป็นหนึ่งในวิธีกำจัดฝุ่น ที่ทำได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้เครื่องดูดฝุ่น โดยเฉพาะตามเตียงนอน หมอน ผ้าห่ม เฟอร์นิเจอร์ หรือจะใช้ เครื่องดูดไรฝุ่น เป็นอุปกรณ์เฉพาะสำหรับการดูดไรฝุ่นโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถดูดไรฝุ่นและมูลของไรฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6. การตากแดดก็สามารถกำจัดไรฝุ่นได้เหมือนกัน แต่ในระดับเล็กน้อยหรือบางส่วนเท่านั้น เพราะเมื่อโดนแดด ไรฝุ่นจะหนีไปอยู่อีกฝั่งที่ร้อนน้อยกว่า ทำให้มันไม่ตายทั้งหมด อย่างไรก็ตาม การตากแดดสามารถลดความชื้นแบบที่ไรฝุ่นชอบอยู่ ถ้าหากตากนานประมาณ 5 ชั่วโมงขึ้นไป ก็จะช่วยลดปริมาณและป้องกันไรฝุ่นได้ 

7. หมั่นล้างแอร์และพัดลมอยู่เสมอ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่สะสมฝุ่นมากที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ เนื่องจากมีกระบวนการทำงานที่ต้องดูดลมเข้ามายังตัวเครื่องเพื่อปล่อยลมออก ดังนั้นภายในจึงเป็นจุดสะสมฝุ่นชั้นดี มิหนำซ้ำยังสามารถกระจายฝุ่นไปทั่วห้องได้หากละเลยการทำความสะอาดไป 

8. เครื่องฟอกอากาศ ตอบโจทย์คนที่อยากกำจัดไรฝุ่นในอากาศ นอกจากไรฝุ่นที่เกาะอยู่ตามเฟอร์นิเจอร์ ยังมีไรฝุ่นที่ลอยอยู่ในอากาศซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้ง่าย และนอกจากจะช่วยกำจัดไรฝุ่นในอากาศได้แล้ว ยังสามารถกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย

 ซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดการเกิดไรฝุ่นได้

ไรฝุ่นกัดมีอาการอย่างไรบ้าง

  • อาการภูมิแพ้ เป็นอาการที่เกิดจากไรฝุ่นกัด มักเกิดขึ้นกับคนที่ภาวะภูมิไวเกินจากสารต่างๆ เช่น อาหาร ไรฝุ่น หรือละอองเกสรดอกไม้ ส่งผลให้ผู้ที่มีอาการรู้สึกคัดจมูก น้ำมูกไหล และไอจามได้
  • อาการหอบหืด อีกหนึ่งอาการที่มาจากไรฝุ่นกัด สามารถเกิดขึ้นได้จากการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น ขนสัตว์ หรือมลพิษทางอากาศ ทำให้ผู้ที่เป็นหอบหืดมีอาการไอและมีเสมหะ รู้สึกแน่นหน้าอก หายใจได้ไม่ทั่วท้อง และเหนื่อยหอบ ทั้งนี้ ถึงอาการดังกล่าวมักเกิดขึ้นเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่ขอแนะนำให้ไปพบแพทย์ทันที

การรักษาอาการแพ้ไรฝุ่น

หากท่านทราบว่ามีอาการแพ้ไรฝุ่น ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับไรฝุ่น โดยต้องกำจัดที่ต้นตอ คือการกำจัดไรฝุ่น และรักษาอาการแพ้และรับประทานยาควบคู่กันไป

แม้เราจะไม่สามารถมองเห็นไรฝุ่นได้ด้วยตาเปล่า แต่การที่มองไม่เห็น ไม่ได้แปลว่าไม่มี ถ้าไม่อยากเป็นโรคภูมิแพ้ ก็ต้องป้องกันไว้ก่อน เพราะถ้าเป็นโรคนี้แล้ว คงจะรู้สึกหงุดหงิด ไม่สบายตัว ซ้ำร้ายหากปล่อยไว้ อาจทำให้เกิดโรคที่ร้ายแรงอื่น ๆ ตามมาอีกได้ ดังนั้น หันมาป้องกัน และลดความเสี่ยงไรฝุ่น เพื่อทำให้การนอนหลับพักผ่อนของเรามีความสุข

อ่านเพิ่มเติม : ไม่ซักปลอกหมอน สยองกว่าที่คิด

kanyarat sakunkim

kanyarat sakunkim

2 comments

Andy Anderson

Andy Anderson

March 12, 2022

Mary Williams

Mary Williams

March 12, 2022

Tell us what you think!

You are replying to Mary Williams. You can post a new comment instead.