เมื่ออายุเยอะขึ้น ริ้วรอย ความหมองคล้ำก็เริ่มมาเยือน ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของเรตินอล ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียนขึ้นได้ ( Retinol )
ริ้วรอยบนใบหน้าไม่ใช่เรื่องที่สนุกเลย เป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เเต่เราดูแลผิวของเราได้ การใช้เรตินอลมีข้อดีอย่างไร ต้องใช้ตอนไหนถึงจะเห็นผลกับผิวที่สุด
เรตินอล คืออะไร?
เรตินอล คือ อนุพันธ์ของวิตามินเอบริสุทธิ์ เป็นสารที่จัดอยู่ในกลุ่ม เรตินอยด์ (retinoids) ส่วนใหญ่จะใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย สามารถลดเลือนริ้วรอยและฟื้นฟูผิว เช่น ริ้วรอยเล็กๆ ที่เกิดขึ้นตามวัย โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ30-40+ และมีส่วนช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจน ฟื้นฟูผิวให้ริ้วรอยลดเลือนและเรียบเนียนขึ้น
เรตินอล (Retinol) มีความสำคัญอย่างไร ต่อผิว
- ช่วยผลัดเซลล์ผิว เรตินอลเป็นตัวช่วยในการกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพให้เผยผิวใหม่ที่สดใส เรียบเนียน และช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้น
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เรตินอลมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยทำให้ผิวเต่งตึง ยืดหยุ่น ลดเลือนริ้วรอย และรอยเหี่ยวย่น
- ลดเลือนรอยสิว เรตินอลจะช่วยลดการอักเสบของสิว ควบคุมความมันบนใบหน้า และช่วยผลัดเซลล์ผิวให้จุดด่างดำ รอยดำจากสิว และฝ้ากระจ่างใสขึ้น
เรตินอล (Retinol) ทำงานอย่างไร
การทำงานของ Retinol จะช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งโดยปกติแล้วเซลล์ผิวหนังของคนเราจะถูกผลัดออกทุก ๆ 28 วัน แต่เมื่ออายุมากขึ้นการผลัดเซลล์ผิวจะเกิดช้าลง ซึ่งนำไปสู่ปัญหาผิวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้งหยาบกร้าน ผิวหมองคล้ำ และการอุดตันในรูขุมขนซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว
มีงานวิจัยพบว่า Retinol มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ให้เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วหลุดลอกออก ทำให้ริ้วรอยแห่งวัยและจุดด่างดำแลดูจางลง ผิวดูสดใส เรียบเนียนขึ้น เนื่องจากมีส่วนช่วยลดการสร้างเม็ดสี จึงทำให้ผิวหน้าแลดูกระจ่างใสมากขึ้น
ประโยชน์ของการใช้ เรตินอล
ประโยชน์เรตินอลเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการต่อต้านริ้วรอย ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยลดเลือนริ้วรอยและปรับผิวที่หมองคล้ำให้สว่างสดใส แลดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น เรตินอลมีส่วนช่วยในการแก้ปัญหารอยดำ ทำให้ผิวพรรณสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น และเสริมเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวแลดูกระจ่างใส เรียบเนียน รวมไปถึงมีประโยชน์ในการควบคุมการผลิตน้ำมันและลดขนาดรูขุมขน ลดการอุดตันที่เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว และฟื้นฟูคอลลาเจนที่เสียหายจากมลภาวะหรือแสงแดดในระหว่างวันได้เป็นอย่างดี
เรตินอล (Retinol) เหมาะกับใครบ้าง
เรตินอล เหมาะกับคนที่มีปัญหาในเรื่องของริ้วรอย รอยคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ รอยแผลเป็นจากปัญหาสิว แต่เนื่องจากเรตินอล อาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบอบบาง ดังนั้นหากเริ่มต้นใช้อาจจะต้องใช้ในปริมาณน้อย ๆ ก่อน และค่อยเพิ่มขึ้นตามความแข็งแรงของผิว
เรตินอลช่วยรักษาสิวได้อย่างไร ?เรตินอลสามารถที่จะป้องกัน kerationocytes ที่เกิดอุดตันรูขุมขนจนนำไปสู่การเกิดสิว และยังมีคุณสมบัติในการสลายสิว ช่วยขจัดสิ่งอุดตันในรูขุมขน และยับยั้งการก่อตัวของสิวอุดตัน เกิดขึ้นเมื่อรูขุมขนดักจับน้ำมัน และเซลล์ผิว เช่น สิวหัวดำ สิวหัวขาว และสิวหัวแดง เรตินอลช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของเซลล์ผิว ในระดับเซลล์ผิว สิ่งนี้ส่งเสริมกระบวนการขัดผิวตามธรรมชาติและปล่อยเซลล์ผิวที่ตายแล้วที่อุดตันรูขุมขน ซึ่งช่วยลบรอยสิวที่ฝังแน่นให้ดูจางลง และป้องกันไม่ให้เกิดรอยแดง
ข้อควรรู้ก่อนใช้เรตินอล
การใช้เรตินอลอย่างถูกวิธีนอกจากจะทำให้ได้รับการบำรุงผิวอย่างเต็มที่แล้ว ยังช่วยป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย คนที่มีสิว โรคผิวหนังอื่น ๆ โดยมีข้อควรรู้และควรระวัง ดังนี้
- คนที่มีผิวเเพ้ง่ายและผิวแห้งควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเริ่มใช้เรตินอล โดยอาจเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นต่ำก่อน เพื่อลดความเสี่ยงของการระคายเคืองผิว
- ผู้ที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบ โรคผื่นภูมิแพ้ และเป็นสิวรุนแรงไม่ควรใช้เรตินอล เนื่องจากเป็นสารที่ออกฤทธิ์รุนแรงต่อผิว และอาจเกิดการระคายเคืองผิวได้
- ผู้ที่วางแผนจะตั้งครรภ์ กำลังตั้งครรภ์ และให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้เรตินอลเสมอ เนื่องจากสารในกลุ่มวิตามินเออาจทำให้เกิดความผิดปกติต่อทารกได้
- หากใช้ยาทารักษาสิวอยู่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เรตินอล
- การใช้เรตินอลในช่วงแรกอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง เช่น ผิวแดง แสบ คัน และลอก รวมทั้งอาจทำให้สิวขึ้นมากผิดปกติ เนื่องจากเรตินอลช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ดันสิวที่อุดตันอยู่ใต้ผิวหนังออกมาการใช้เรตินอลอาจทำให้ผิวไวต่อแสง จึงควรทาเรตินอลในตอนกลางคืน เพื่อป้องกันการระคายเคืองผิว
- หากเป็นไปได้ควรอยู่ในที่ร่ม หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF30 ขึ้นไปก่อนออกจากบ้านเสมอ
- ไม่ควรใช้เรตินอลพร้อมกับกรดที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่นAHAและวิตามินซี หากต้องการใช้ อาจใช้คนละช่วงเวลากัน เช่น ใช้วิตามินซีในตอนเช้า และใช้เรตินอลในตอนกลางคืน
เทคนิคการใช้เรตินอลในการบำรุงผิวที่มีประสิทธิภาพ
ควรเริ่มใช้เรตินอลในปริมาณที่น้อยหรือมีความเข้มข้นต่ำ เพราะก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ง่าย เพื่อให้ผิวได้ทำความคุ้นเคยกับเรตินอลในการปรับสภาพผิวและเพื่อทดสอบการแพ้ของผิวด้วย ไม่ควรใช้เรตินอลคู่กับสกินแคร์ที่มีวิตามินซี เพราะเรตินอลอาจทำให้ผิวที่บอบบางมีความแห้งมากขึ้นจนอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้
อ่านเพิ่มเติม : ปัญหาสิวอุดตันขึ้นที่เดิมซ้ำๆ เกิดจากสาเหตุใด
2 comments
Andy Anderson
March 12, 2022
This is some additional paragraph placeholder content. It has been written to fill the available space and show how a longer snippet of text affects the surrounding content. We'll repeat it often to keep the demonstration flowing, so be on the lookout for this exact same string of text.
Mary Williams
March 12, 2022
This is some additional paragraph placeholder content. It has been written to fill the available space and show how a longer snippet of text affects the surrounding content. We'll repeat it often to keep the demonstration flowing, so be on the lookout for this exact same string of text.