กินผลไม้อย่างไร ให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุด

หลายคนคงสงสัยว่ากินผลไม้ตอนไหนได้รับประโยชน์มากที่สุด แต่บางครั้งก็ต้องกินในปริมาณที่พอดีเพราะมีผลไม้บางชนิดที่มีน้ำตาลสูง ซึ่งอาจจะทำให้อ้วนได้ ( fruits )

ผลไม้เป็นอาหารที่ควรทานเป็นประจำ เพราะมีใยอาหารวิตามินและเกลือแร่ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอยู่มากมาย เเถมยังช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้นเเละยังช่วยชะลอวัยได้ด้วย

เป็นที่ทราบกันดีว่าผลไม้นั้นมีประโยชน์มากมายมหาศาล เพราะเป็นแหล่งของวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและมีคุณสมบัติของการเป็นแหล่งใยอาหาร ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดการดูดซึมของคอเลสเตอรอลและไขมัน และยังช่วยทำให้ระบบการย่อยระบบการขับถ่ายทำงานได้อย่างปกติอีกด้วย นอกจากนี้ผลไม้บางชนิดยังมีสารพิเศษที่ช่วยทำหน้าที่เป็นยาป้องกันและรักษาโรคบางชนิดได้ด้วย

6 ผลไม้มากคุณค่า กินแทนยารักษาโรคได้

ส้ม ต้านทานการอักเสบ ป้องกันได้หลายโรค 

ส้มที่มาพร้อมรสชาติหวานอมเปรี้ยว ล้วนอุดมไปด้วยวิตามินซีจำนวนมาก และยังมีวิตามินชนิดอื่นๆ หลายชนิด นอกจากนี้ยังมีเบต้าคาโรทีนเส้นใยอาหาร แคลเซียม โพแทสเซียม เหล็ก และฟลาโวนอยด์ ฯลฯ จึงจะช่วยต้านทานการอักเสบ รักษาแผลให้หายเร็วขึ้นซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอต่างๆ รักษาโรคลักปิดลักเปิด ช่วยล้างพิษ และป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้

 กีวี ช่วยบรรเทาโรคเบาหวาน

กีวีเป็นผลไม้ที่มีแคลอรี่ต่ำ เหมาะสำหรับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก กินแล้วจะช่วยบรรเทาโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีวิตามินซีสูงกินแล้วจะกระปรี้กระเปร่าสดชื่น ช่วยชะลอความชราของเซลล์ ช่วยย่อยอาหาร รักษาอาการท้องผูก และปรับปรุงระบบย่อยอาหารให้ดีขึ้นรับรองกินแล้วสบายท้องแน่นอน

ลูกพีช ช่วยปกป้องเซลล์ และบำรุงหัวใจ

ลูกพีชผลไม้หอมหวานแสนอร่อย เป็นแหล่งของวิตามินเอและวิตามินต่างๆ รวมไปถึงแร่ธาตุชนิดอื่นๆ จัดว่าเป็นผลไม้ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีเบต้าคริปโตแซนทินที่จะช่วยป้องกันเซลล์จากการถูกทำลาย ช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงกระเพาะอาหาร เพิ่มความกระปรี้กระเปร่าและช่วยเพิ่มพลังสมองให้รู้สึกปลอดโปร่งมากขึ้น

อะโวคาโดป้องกันโรคไข้หวัด ปกป้องร่างกายจากมลพิษ

อะโวคาโดมีทั้งวิตามินบีและวิตามินซีสูง กินแล้วจะช่วยป้องกันไข้หวัด โรคลักปิดลักเปิด โรคเหน็บชา ปากนกกระจอก และยังมีวิตามินอีสูงโดยจัดว่าเป็นผลไม้แห่งความงาม เพราะสามารถช่วยชะลอความแก่ของเซลล์ บำรุงผิวพรรณ ปกป้องร่างกายจากมลภาวะลดบ่อเกิดของเซลล์มะเร็งและโรคหัวใจได้

 เกรปฟรุต ป้องกันพิษจากโลหะหนัก ลดคอเลสเตอรอล

เกรปฟรุตมีเส้นใยอาหารชนิดหนึ่งที่เรียกว่าเพกติน โดยมีคุณสมบัติช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมากซึ่งจะช่วยป้องกันสารพิษจากโลหะหนักที่คอยทำอันตรายกับร่างกาย นอกจากนี้เกรปฟรุตยังช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งในกระเพาะอาหารและตับอ่อนได้อีกด้วย

แอปเปิ้ล ช่วยล้างพิษป้องกันมะเร็งลำไส้

แอปเปิ้ลไม่ว่าจะสีไหนต่างก็มีประโยชน์และรสชาติอร่อยหอมหวาน ให้ประโยชน์กับร่างกายทั้งในส่วนของเนื้อและเปลือกแอปเปิ้ลยิ่งโดยเฉพาะในเปลือกแอปเปิ้ลก็มีสารฟลาโวนอยด์ปริมาณมาก โดยจะทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยดีท็อกซ์พิษออกจากลำไส้ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งลำไส้นั่นเอง

ผลไม้ลดความอ้วนมีอะไรบ้าง

สิ่งสำคัญเมื่อต้องการลดความอ้วนคือการเลือกกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ขั้นแรกอาจเริ่มจากการเลือกกินผลไม้ที่อุดมไปด้วยกากใยอาหารช่วยให้ระบบย่อยอาหารเเละระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น วิตามิน และมีน้ำตาลน้อย เพื่อช่วยให้อิ่มได้นานขึ้นและได้รับพลังงานที่เหมาะสมโดยตัวอย่างของผลไม้ลดความอ้วนที่เป็นมิตรต่อสุขภาพและการลดน้ำหนัก เช่น แอปเปิ้ล กล้วย ส้ม ฝรั่ง เสาวรส เเตงโม สับปะรด กีวี่

ผลไม้ลดความอ้วนกับข้อควรระวัง

แม้ว่าการกินผลไม้จะมีส่วนช่วยให้สุขภาพแข็งแรง แต่หากกินในปริมาณที่ไม่เหมาะสมก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ เนื่องจากในผลไม้มีส่วนประกอบของน้ำตาลธรรมชาติ โดยเฉพาะน้ำตาลกลูโคส (Glucose) และน้ำตาลฟรักโทส (Fructose) เป็นจำนวนมากโดยสามารถทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น ก่อให้เกิดภาวะฟันผุ เนื่องจากน้ำตาลและกรดที่อยู่ในผลไม้บางชนิด ทำให้รู้สึกอยากอาหารมากขึ้นอีกทั้งการกินผลไม้ในปริมาณมากอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคไตและโรคตับอ่อนด้วยเช่นกัน

การกินผลไม้ที่ว่ามีประโยชน์แล้ว หากกินให้ถูกเวลาก็จะยิ่งส่งผลดีต่อร่างกาย วันนี้เรามี 4 วิธีกินผลไม้มาแนะนำในช่วงเช้า กลางวัน เย็น แต่ละเวลาควรกินผลไม้อะไรแล้วดี ไปดูกันเลย

1. ช่วงเช้า

การกินผลไม้ในตอนเช้าจะช่วยทำให้เรามีพลังไปตลอดทั้งวัน โดยแนะนำให้เลือกกินผลไม้ให้หลากหลายชนิด ซึ่งผลไม้ที่ดีสำหรับตอนเช้าเช่น สับปะรด เชอร์รี่ กีวี่ สตรอว์เบอร์รี่ และแอปเปิ้ล โดยสับปะรดและเชอร์รี่นั้นมีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบ ช่วยควบคุมความดันโลหิตและช่วยลดโรคหัวใจได้ ส่วนกีวี่มีส่วนช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ในขณะที่แอปเปิ้ล หากกินตอนเช้าก็จะช่วยดีท็อกซ์และลดไขมันหน้าท้องได้เป็นอย่างดี

2. ช่วงกลางวัน

สำหรับช่วงเวลากลางวัน ช่วงนี้เราสามารถกินผลไม้หวานๆ ที่มีน้ำตาลได้ เพราะอย่างไรแล้วน้ำตาลในผลไม้ก็ถือเป็นน้ำตาลธรรมชาติและในช่วงเวลานี้ร่างกายของเราจะต้องการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดเพื่อย่อยอาหาร โดยเฉพาะผลไม้อย่างกล้วยและมะม่วงซึ่งถือเป็นแหล่งของน้ำตาลและพลังงาน กินแล้วทำให้เรารู้สึกตื่นจากความเหนื่อยล้าในช่วงบ่ายๆ ได้

3. ช่วงก่อนออกกำลังกาย

ใครที่มักจะออกกำลังกายช่วงเย็นๆ แนะนำให้กินผลไม้ก่อนออกกำลังกายอย่างผลไม้จำพวก แอปเปิ้ล ส้ม และลูกแพร์ เพราะผลไม้เหล่านี้เรียกได้ว่ากินก่อนออกกำลังกายแล้วดี กินแล้วจะให้พลังงานทันทีก่อนออกกำลังกาย ซึ่งการออกกำลังกายแต่ครั้งเราล้วนต้องการพลังงานดังนั้นแนะนำให้เลือกกินผลไม้ที่จะให้พลังงานเลย

 4. ช่วงเย็น

สำหรับมื้อเย็น อย่าลืมเพิ่มผลไม้เข้าไปในมื้ออาหารของเราด้วยนะ โดยเฉพาะผลไม้อย่าง สับปะรด อะโวคาโด และกีวี่ ที่ถือว่ากินแล้วดีในช่วงเย็นๆ ค่ำๆ โดยแนะนำให้กินก่อนเข้านอนสักประมาณ 2-3 ชั่วโมง ก็จะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย หลับง่าย และสบายขึ้น แต่ไม่ควรกินแล้วนอนทันทีนะ เพราะจะเป็นการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดได้ 

เนื้อหานี้เหมาะสมกับหมวดหมู่ สุขภาพ