อาบน้ำดึกทำลายสุขภาพจริงหรือไม่

ใครที่ชอบอาบน้ำดึกๆ ประจำต้องระวัง เพราะการอาบน้ำไม่เป็นเวลาส่งผลให้เสียสุขภาพมากมายกว่าที่คิด ( shower )

การอาบน้ำดึกเป็นช่วงที่อุณหภูมิเปลี่ยนอากาศจะเริ่มเย็น อาจทำให้เป็นหวัดและไม่สบายได้ง่าย ระบบภายในร่างกายเกิดอาการรวน เพราะอุณหภูมิในร่างกายเปลี่ยนแปลงฉับพลัน 

การอาบน้ำที่เหมาะสมกับร่างกายและทำให้สุขภาพดีสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ แนะการอาบน้ำเป็นกิจวัตรประจําวันที่เราทำกันอยู่เป็นประจำ การอาบน้ำไม่เพียงแต่ช่วยให้ร่างกายสะอาดและรู้สึกสดชื่น แต่ยังเป็นวิธีหนึ่งในการดูแลผิวพรรณให้ดีขึ้นอีกด้วยการอาบน้ำอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทราบพื่อให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายและทำให้มีสุขภาพดี

อุณหภูมิมีความสำคัญอย่างมากในการอาบน้ำ โดยแบ่งได้ดังนี้ 

1. การอาบน้ำร้อน ที่มีอุณหภูมิประมาณ 37-42 องศาเซลเซียส จะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น และรู้สึกผ่อนคลาย เช่นเดียวกับการแช่ออนเซ็น อย่างไรก็ตาม ไม่ควรอาบหรือแช่น้ำร้อนเกิน 15 นาที เนื่องจากอาจเกิดอาการหน้ามืดเป็นลมได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้ผิวแห้ง จึงควรทาครีมบำรุงผิวทุกครั้งหลังจากอาบน้ำ

2.การอาบน้ำอุ่น ที่มีอุณหภูมิประมาณ 27-37 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการอาบน้ำ ช่วยขับของเสีย ทำให้ผ่อนคลาย ลดอาการบวม มือเท้าเย็น เส้นเลือดขอด และช่วยในการไหลเวียนเลือด ทำให้ผ่อนคลาย สบายตัว และนอนหลับง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามควรทาครีมบำรุงผิวทุกครั้งหลังจากอาบน้ำอุ่น เพราะน้ำอุ่นก็สามารถทำให้ผิวแห้งได้ 

3.การอาบน้ำเย็น ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 27 องศาเซลเซียส จะช่วยให้ร่างกายและกล้ามเนื้อตื่นตัว ทำให้รู้สึกสดชื่น มีงานวิจัยต่างประเทศระบุว่า การอาบน้ำเย็นยังสามารถลดอาการซึมเศร้า หดหู่ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามควรทาครีมบำรุงผิวทุกครั้งหลังจากอาบน้ำเย็น เพื่อลดอาการผิวแห้งแตก การอาบน้ำในแต่ละครั้งไม่ควรใช้เวลานานเกินไป โดยทั่วไปควรอยู่ประมาณไม่เกิน 5-10 นาที และไม่ควรอาบน้ำดึกเกินไป เพราะอาจทำให้ร่างกายเสียสมดุลในการปรับอุณหภูมิ ทำให้เกิดผิวแห้งและผิวขาดความชุ่มชื้น ส่วนความถี่ในการอาบน้ำปกติ แนะนำให้อาบน้ำวันละ 1-2 ครั้ง ไม่ควรอาบน้ำบ่อยจนเกินไปเพราะอาจทำให้มีอาการผิวแห้ง ระคายเคืองตามมาได้

ช่วงเวลาไหนบ้างที่ไม่ควรอาบน้ำ

เมื่อมีอาการความดันต่ำ

เพราะเมื่อเราอาบน้ำ อุณหภูมิของน้ำมักจะสูงกว่าอุณหภูมิร่างกาย น้ำอุ่นๆ จะไปทำให้หลอดเลือดขยายตัว คนที่มีอาการความดันต่ำ เมื่ออาบน้ำ จะทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายไม่เพียงพอ เป็นเหตุให้หมดสติได้หลังดื่มเหล้า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

แอลกอฮอล์จะไปยับยั้งการทำงานของตับ ทำให้การปล่อยกลูโคสออกมาสู่กระแสเลือดน้อยลง และเวลาอาบน้ำ ร่างกายจะต้องการกลูโคสมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้น การอาบน้ำหลังกินเหล้า ปริมาณน้ำตาลในเลือดจะไม่เพียงพอ ทำให้เกิดอาการเวียนหัว หน้ามืดตาลาย ร่างกายไม่มีเรี่ยวแรง

หลังออกกำลังกาย

ไม่ว่าจะเป็นหลังการออกกำลังทางร่างกายหรือสมองอย่างหนัก ร่างกายต้องการการพักผ่อนสักระยะก่อนการอาบน้ำ ไม่อย่างนั้นจะเป็นเหตุให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจและสมองไม่เพียงพอ ทำให้เกิดอาการเป็นลมได้ ควรจะพักอย่างน้อย 10 นาทีขึ้นไป

หลังทานอาหาร ไม่ควรอาบน้ำทันที

หลังทานข้าวเสร็จ เลือดจะไปเลี้ยงระบบย่อยอาหารเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้เต็มที่ ถ้าไปอาบน้ำเวลานี้ เลือดจะต้องแบ่งไปเลี้ยงส่วนอื่น ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่เต็มที่ เพราะมีเลือดมาเลี้ยงไม่เพียงพอ เกิดอาการอาหารไม่ย่อย จุกเสียดท้องได้

เมื่อมีไข้ ไม่สบายปวดหัว

เมื่ออุณหภูมิร่างกายสูงถึง 38 องศาเซลเซียส ปริมาณการเผาผลาญความร้อนในร่างกายเพิ่มขึ้น 20% ในเวลานั้น ร่างกายจะอ่อนแอ ซึ่งถ้าไปอาบน้ำอาจเกิดอันตรายได้ อาจทำให้ไข้ขึ้นสูงเป็นลมหมดสติ

ข้อดีเเละข้อเสียในการอาบน้ำเย็น น้ำอุ่น

ประโยชน์ของการอาบน้ำเย็น 

น้ำเย็น น้ำอุณหภูมิปกติ และค่อนข้างเย็น จะสามารถสร้างความสดชื่นหลังจากอาบน้ำได้เป็นอย่างดี แถมยังสร้างความชุ่มชื้นแก่ผิวให้ดูเปล่งปลั่ง คลายความง่วง แถมยังช่วยระบบเผาผลาญไขมันในร่างกายได้ด้วย 

ข้อเสียของการอาบน้ำเย็น 

การอาบน้ำเย็นไม่เหมาะกับคนที่ป่วย อาจส่งผลเสียต่อร่างกายให้มีความอ่อนแอมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้ระบบหมุนเวียนเลือดผิดปกติ รวมทั้งผู้ที่ภูมิคุ้มกันตก อุณหภูมิร่างกายลดลงรวดเร็ว สามารถถึงขั้นช็อกหมดสติได้

ประโยชน์ของการอาบน้ำอุ่น 

การอาบน้ำอุ่นอุณหภูมิระหว่าง 27-37 องศาฯ นั้นจะช่วยผ่อนคลายความเครียด บรรเทาความปวดเมื่อย คลายกล้ามเนื้อของร่างกายได้ และช่วยเรื่องการนอนหลับให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถทำความสะอาดผิวหนังได้ลึก และสะอาดกว่าน้ำเย็น เนื่องมาจากรูขุมขนที่เปิด สามารถทำให้ขจัดสิ่งสกปรกได้อย่างทั่วถึง และสำหรับสุภาพสตรียังช่วยเรื่องระบบไหลเวียนของเลือด และบรรเทาอาการปวดเกร็ง ปวดท้องได้

ข้อเสียของการอาบน้ำอุ่น

การอาบน้ำอุ่นนั้นไม่ควรที่จะอาบนานจนเกินไป เพราะจะทำให้ผิวแห้งได้ง่าย และไม่แนะนำให้อาบน้ำอุ่นในช่วงเช้า เพราะอาจทำให้อ่อนล้า และง่วงซึม การอาบน้ำอุ่นไม่เหมาะสำหรับผู้มีความดันผิดปกติ และผู้สูงอายุ

สิ่งที่ต้องระวังในการอาบน้ำ ไม่ให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพ

• อาบน้ำเย็นในตอนเช้า เพื่อให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ตื่นตัว พร้อมเริ่มวันใหม่
• อาบน้ำอุ่น หรือแช่น้ำร้อนในตอนกลางคืน เพื่อคลายความเครียดสะสมมาทั้งวัน และช่วยให้นอนหลับได้ดี
• หากต้องการปลุกร่างกายให้สดชื่น สามารถใช้วิธีอาบน้ำอุ่นและอาบน้ำเย็นสลับกันเพื่อกระตุ้นระบบหมุนเวียนโลหิตในร่างกาย
• อาบน้ำโดยเริ่มจากปลายเท้าขึ้นไปกลางลำตัว เพื่อให้ร่างกายได้ปรับอุณหภูมิตัวเองก่อน เพื่อป้องกันการช็อคหมดสติ และอาการวูบฉับพลันระหว่างอาบน้ำ

ดูแลสุขภาพด้วยการอาบน้ำที่ถูกวิธี

1. เตรียมพร้อมร่างกายก่อนอาบน้ำประมาณ 5-10 นาที โดยการยืดเส้นยืดสายหรือเอาเท้าแตะน้ำ เพื่อปรับสภาพร่างกายให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการอาบน้ำ
2. ปรับอุณภูมิของน้ำที่อาบให้เหมาะสมจะส่งผลดีต่อสุขภาพ โดยคำนึงถึงสภาพอากาศ สภาพร่างกายในขณะนั้นด้วย เพื่อไม่ให้การอาบน้ำทำร้ายสุขภาพผิวของตัวเอง
3. การรักษาเวลาในการอาบน้ำเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ควรอาบน้ำเกิน 15-20 นาที เพราะการอาบน้ำนานเกินไป ผิวจะยิ่งสูญเสียน้ำมันเคลือบผิว ทำให้ผิวแห้งมากจนขาดน้ำ และแห้งกร้านได้
4. ควรเริ่มต้นชะล้างร่างกายด้วยน้ำเปล่าก่อนใช้ครีมอาบน้ำหรือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว เพื่อขจัดสกปรกที่เคลือบผิวออกจากตัวก่อน เพื่อให้อาบน้ำได้สะอาดยิ่งขึ้น
5. บำรุงผิวหลังการอาบน้ำเสมอ เพราะผิวอาจสูญเสียความชุ่มชื้นได้หลังการอาบน้ำ จึงควรเติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยการทาโลชั่นบำรุงผิว หรือออยทาผิวทุกครั้ง

จะเห็นได้ว่าการอาบน้ำด้วยน้ำที่อุณหภูมิต่าง ๆ ก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างแต่ไม่ว่าจะเลือกอาบน้ำร้อน น้ำอุ่น หรือน้ำเย็น ต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศหรือสภาพร่างกายในขณะนั้น เพื่อให้การอาบน้ำส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายและไม่ทำร้ายสุขภาพผิว การอาบน้ำดึกเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้ง่าย ทำลายสุขภาพมากมาย ทางที่ดีเราควรอาบน้ำตั้งเเต่ตอนเย็นเพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวไม่เจ็บป่วยง่าย

อ่านเพิ่มเติม : เปียกฝนไม่สระผมได้ไหม