ผิวเสีย เพราะอากาศเปลี่ยนเเปลงบ่อย ทำให้เกิดปัญหาผิวคล้ำ

สภาพอากาศประเทศไทยตอนนี้ขนาดแอร์ยังเอาไม่อยู่ เรียกได้ว่าถ้าจะต้องออกไปข้างนอกตอนกลางวัน แทบจะเป็นลมกันเลยทีเดียวและประสบปัญหา "ผิวเสีย" skin care

จะออกไปไหนเเต่ละที สิ่งที่ห้ามลืมเลยก็คือการทาครีมกันแดด ที่มี SPF สูงๆ ใส่เสื้อเเขนยาวป้องกันเเสงแดด เเละกางร่ม สิ่งเหล่านี้  ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวันของทุกคน เพราะหากเราละเลยไม่ป้องกันผิว อาจเป็นสาเหตุของการเกิดปัญหาสุขภาพผิวเเละผิวคล้ำเสียตามมาผิวของคนเราก็เหมือนหน้าต่างที่เเสดงหรือสามารถบ่งบอกได้ว่าร่างกายของคุณนั้นเเข็งแรง หรือ มีความผิดปกติเกิดขึ้นหรือเปล่า ไม่ใช่เเค่บ่งบอกถึงความสวยงามเเค่ภายนอกเพียงอย่างเดียว และผิวจะดีได้ส่วนหนึ่งก็มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตในเเต่ละวันด้วย

หากคุณทานอาหารที่ดี ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ผลที่ได้ก็คือผิวที่สวยงามจากภายในสู่ภายนอกตัวการร้ายที่คอยทำลายผิวของเราอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะอยู่ในร่มหรือกลางแจ้ง คือ รังสี UV (UVA/UVB) ในแสงแดด รวมถึงเหล่ามลภาวะ ฝุ่นควันต่างๆที่ลอยอยู่ในอากาศตลอดเวลา การใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดเป็นประจำทุกวัน จึงช่วยปกป้องผิวของเราจากการถูกทำร้าย ป้องกันผิวไม่ให้แพ้ง่าย โดยเราควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด ที่มีค่า SPF มากกว่า 30 PA+++ ทั้งนี้สามารถทากันแดดซ้ำระหว่างวันได้ เพื่อการปกป้องผิวอย่างยาวนานยิ่งกว่า

ชีวิตในเมืองปัจจุบันนี้ผิวเสียเพราะมลภาวะรอบตัว โดยเฉพาะมลพิษทางอากาศ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าฝุ่น ควัน และสารพิษต่างๆที่ลอยฟุ้งในอากาศที่เรามองไม่เห็นนั้นจะส่งผลเสียต่อผิวพรรณของเราได้มากขนาดนี้ แล้วมลพิษทางอากาศเหล่านี้มีอะไรบ้าง แต่ละประเภท

ส่งผลเสียต่อผิวของเราอย่างไร มาดูกันเลย

• ฝุ่นละออง ยิ่งในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพ ที่มีตึกสูงอยู่เป็นจำนวนมาก เเถมยังมีการก่อสร้างเยอะเป็นพิเศษ ฝุ่นจากมลภาวะ ควันรถตามท้องถนน ไหนจะฝุ่น Pm 2.5 ที่แวะเวียนเข้ามาเป็นปัญหาเสมอ ฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน ส่งผลต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจของเรา ทำให้เกิดอาการระคายเคืองและอักเสบได้ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อละอองฝุ่นนี้รวมตัวเข้ากับสารอื่นๆในอากาศ จะก่อให้เกิดอาการแพ้ หรือระคายเคืองต่อดวงตาและผิวหนังได้ 
• ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ พบได้มากในอากาศ ทั้งจากธรรมชาติเองและเกิดจากมนุษย์ เช่น การเผาไหม้เชื้อเพลิงที่มีธาตุคาร์บอน การตัดไม้ทำลายป่า การหายใจ เป็นต้น โดยการคาร์บอนไดออกไซด์นี้ละลายในเลือดได้ดีกว่าออกซิเจนถึง 200-250 เท่า
• เมื่อร่างกายได้รับในปริมาณมาก จะทำให้เลือดนำออกซิเจนไปยังส่วนต่างๆของร่างกายได้น้อยลง นั่นหมายถึงเซลล์ผิวหนังของเราก็จะได้รับออกซิเจนน้อยลง ทำให้ผิวของเราหมองคล้ำ ไม่ตึงกระชับ           

หลายคนมองว่าปัญหามลพิษทางอากาศ เป็นเรื่องที่ไกลตัวแค่ป้องกันโดยใส่หน้ากาอนามัยก็น่าจะพียงพอ เเต่หารู้ไม่ว่ามลพิษทางอากาศที่เพิ่มขึ้นสูงขึ้นในเเต่ละวัน นอกจากจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพเเล้วนั้น มลภาวะเเละฝุ่นยังถือเป็นภัยเงียบที่พร้อมทำร้ายผิวคุณได้ทุกเมื่อ เมื่อฝุ่นละอองสัมผัสโดยตรงกับผิวคุณ บางรายอาจมีผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างวรวดเร็ว เช่น เป็นสิว เกิดอาการเเพ้ ระคายเคืองอักเสบ เเละในบางรายอาจมีผลกระทบแบบเรื้อรัง เช่น ผิวเสื่อมสภาพ ดูแก่เร็วขึ้น หรืออาจถึงขั้นป่วยเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังเลยก็ได้

การดูแลผิวให้เหมาะสมเพื่อป้องกันผิวเสียกับสภาพอากาศของประเทศไทย

ประเทศไทยอยู่ในเขตร้อน ทำให้มีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้นเกือบทั้งปี สภาพอากาศที่ร้อนจนเกินไปสามารถทำอันตรายให้กับผิวได้โดยเฉพาะฤดูร้อนที่อุณหภูมิสูงขึ้นมาก หรือฤดูฝนที่ฝนตกเกือบทุกวัน ทำให้ผิวปรับสภาพไม่ทัน เนื่องจากชีวิตประจำวันของเรายังต้องออกไปนอกบ้าน หรือ บางคนทำงานที่ต้องโดนแดด เราจึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงสภาพอากาศร้อน และ แสงแดดที่แรงเกินไป เพื่อ

การถนอมผิวของเรา เพื่อป้องกันปัญหาผิวคล้ำ ผิวเสีย ด้วยวิธีปฏิบ้ติ ดังนี้

• ปรับเปลี่ยนการปฏิบัติตัว เมื่ออากาศร้อนก็ต้องหลบร้อน พยายามอยู่เย็นๆ
• หลบแดด อยู่ในที่ร่มดีที่สุด แต่ถ้าอยู่ในร่มไม่ได้ ครีมกันแดดอย่างเดียวคงไม่พอ  ร่ม, เสื้อแขนยาว, แว่นกันแดด, หมวก เป็นสิ่งจำเป็น
• หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ร่างกายเราร้อนเพิ่มขึ้นอีก เช่น การออกกำลังกายมากเกินไป การอบไอน้ำ  ซาวนา และ โยคะร้อน
• ห้ามขัดผิว ขัดตัว เพราะผิวมักจะบาง แพ้ง่ายจากเหงื่อออกเยอะกัดผิดอยู่แล้ว ถ้าขัดตัวเพิ่มอีก ผิวจะแพ้ง่ายมากขึ้น
• ทานอาหารเสริมบำรุงผิวการทานอาหารเสริมในรูปแบบต่างๆ ถือเป็นตัวช่วยที่ดี เช่น วิตามินซี เป็นส่วนสำคัญต่อการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและเร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ วิตามินอีมีส่วนช่วยปกป้องเซลล์ผิว จากอนุมูลอิสระ ช่วยยืดอายุผิวให้ความชุ่มชื้น หรืออีกวิธีคือการปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง ซึ่งจะให้คำแนะนำพร้อมเช็กสภาพร่างกายว่า คุณขาดวิตามินหรือสารอาหารชนิดใดเพื่อสามารถเสริมส่วนที่ขาดให้ผิวและร่างกายคงความแข็งแรงได้ในระยะยาว