มาส์กหน้าทุกวันได้ไหม ผิวจะดีขึ้นหรือเปล่า

เทรนด์มาส์กหน้ากำลังมาเเรง ถ้ามาส์กหน้าทุกวันได้หรือเปล่า สาวๆที่ชอบบำรุงผิวหน้าจะพลาดได้อย่างไร ( Sheet Mask )

Sheet Mask

มาส์กหน้าเป็นการบำรุงผิว เพิ่มความนุ่มชุ่มชื้นช่วยให้รูขุมขนกระชับ ดีท็อกซ์สิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ให้สะอาด เเต่หากเลือกมาส์กที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดปัญหาผิวตามมา

การมาสก์หน้าเป็นสิ่งที่ทุกคนใช้บำรุงและปรนนิบัติผิว แต่หลายคนยังสงสัยว่าควรมาสก์หน้าบ่อยแค่ไหน เพราะเข้าใจว่าอะไรที่ทำมากเกินไปก็ย่อมไม่ดี การมาส์กหน้า คือ วิธีการบำรุงผิวรูปแบบหนึ่งที่นำสารที่มีสรรพคุณในการบำรุงผิวมาโปะบนใบหน้า เพื่อบำรุงผิว ทำให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งการมาส์กหน้านั้นช่วยกระชับรูขุมขน ช่วยลดปัญหาผิวหนัง อีกทั้งการมาส์กหน้าเป็นการบำรุงผิวได้ล้ำลึก จึงควรมาสก์หน้าควบคู่ไปกับการทาครีมด้วย  

มาสก์หน้าทุกวันดีไหม จะเกิดอะไรขึ้น

มาส์กหน้าทุกวันช่วยให้หน้าใสขึ้นจริงหรือไม่ ควรมาส์กหน้าอาทิตย์ละกี่ครั้ง จริงๆ แล้วการมาส์กหน้าทุกวันถือเป็นเรื่องที่ดี ทั้งนี้จะต้องดูส่วนผสมของมาส์กที่ใช้ก่อนตัดสินใจ เนื่องจากมาส์กบางชนิดมีส่วนผสมของกรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) หรือเป็นมาส์กที่มีข้อความระบุว่าช่วยต่อต้านริ้วรอยต่างๆ จะมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว หากได้รับสารเหล่านี้ทุกวัน อาจเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้ ดังนั้นการมาส์กหน้าทุกวันที่ดี ควรใช้มาส์กที่เป็นสูตรเพิ่มความชุ่มชื้น

มาสก์หน้าทุกวันดีหรือไม่ เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างละเอียดเพราะการมาสก์หน้ามีหลายประเภทและแต่ละประเภทก็มีความเหมาะสมกับความถี่ในการใช้งานแตกต่างกัน ก่อนอื่นเราต้องทราบก่อนว่า การมาสก์หน้าเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลผิวที่หลายคนชื่นชอบ ด้วยเหตุผลที่ว่าการมาสก์หน้าสามารถให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนในเวลารวดเร็ว เช่น การให้ความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูกระจ่างใส และการปรับสภาพผิวหน้า และ การมาสก์หน้าทุกวันสามารถทำได้ แต่ต้องคำนึงถึงประเภทของมาสก์ ควรพิจารณาอย่างละเอียดเพราะการมาสก์หน้ามีหลายประเภทและแต่ละประเภทก็มีความเหมาะสมกับความถี่ในการใช้งานแตกต่างกัน และรวมไปถึงการคำนึงถึงสภาพผิวของแต่ละคนเป็นหลัก 

การมาส์กหน้าช่วยให้ผิวหน้ากระชับ ผิวนุ่มชุ่มชื้นน่าสัมผัส

ประโยชน์และ ผลกระทบจากการมาสก์หน้าทุกวัน

การมาสก์หน้าทุกวันสามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีได้หากเลือกใช้มาสก์ที่เหมาะสม จากคำแนะนำก่อนที่ได้อ่านไป แต่หากใช้มาสก์ที่มีสารเคมีรุนแรงทุกวัน อาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้ การใช้มาสก์ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดปัญหาผิวเพิ่มเติม เช่น สิว ผื่นแดง หรือการอักเสบ

ความถี่ในการมาสก์หน้าขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน การมาสก์หน้าบ่อยแค่ไหนจึงควรพิจารณาดังนี้

  • ผิวแห้งและขาดน้ำ ควรใช้มาสก์ที่ให้ความชุ่มชื้น 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือทุกวันถ้าใช้มาสก์ที่อ่อนโยนและให้ความชุ่มชื้นสูง
  • ผิวมันและเป็นสิวง่าย ควรใช้มาสก์ดินเหนียวหรือมาสก์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อช่วยควบคุมความมันและลดสิว
  • ผิวผสม ผิวผสมควรสลับใช้มาสก์ที่ให้ความชุ่มชื้นและมาสก์ดินเหนียว โดยใช้มาสก์ที่ให้ความชุ่มชื้น 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และมาสก์ดินเหนียว 1 ครั้งต่อสัปดาห์
  • ผิวบอบบางแพ้ง่าย ควรใช้มาสก์ที่มีส่วนผสมอ่อนโยน เช่น มาสก์ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ หลีกเลี่ยงมาสก์ที่มีสารเคมีรุนแรง

มาส์กหน้าตอนไหน ถึงจะเห็นผลดีที่สุด

หากถามว่ามาส์คหน้าตอนไหนดี คำตอบคือ ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่ามาส์คหน้าตอนไหนดีที่สุด เพราะฉะนั้น การมาส์กหน้าจึงสามารถทำได้ทุกช่วงเวลาที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม การมาส์คหน้าตอนเช้ากับตอนกลางคืนก็มีวัตถุประสงค์ และเหตุผลที่แตกต่างกัน 

มาส์คหน้าตอนเช้า

การมาส์คหน้าตอนเช้า เหมาะสำหรับการเตรียมผิวแต่งหน้า เพื่อให้ผิวพร้อมรับแสงแดด ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าแล้ว สารสกัดในมาส์คยังช่วยป้องกันผิวจากแสงแดด ปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวดูสุขภาพดี กระจ่างใส รูขุมขนเล็กลง

มาส์คหน้าตอนกลางคืน

การมาส์คหน้าตอนกลางคืน หรือตอนก่อนนอน ถือเป็นช่วงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะสามารถใช้เวลาในการทำความสะอาดผิวก่อนมาส์คหน้าได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องรีบร้อนเหมือนช่วงเช้า สำหรับประโยชน์ของการมาส์คหน้าตอนกลางคืน คือช่วยฟื้นฟูผิวหลังจากโดนมลภาวะมาทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด ฝุ่น ควันรถ อีกทั้งยังบำรุงผิวอย่างเต็มที่ในตอนหลับพักผ่อน อย่างไรก็ตาม ไม่ควรมาส์คหน้าข้ามคืน เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้

การมาร์คหน้า เวลาที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 15-20 นาทีในการมาร์คหน้า แต่บางครั้งแผ่นมาร์คหน้าก็ยังดูชุ่มชื้นอยู่เลยมาร์คต่อ ซึ่งการทำแบบนั้นจะทำให้ความชุ่มชื้นที่ควรเข้าผิวถูกดึงกลับมาสู่แผ่นมาร์คหน้า ดังนั้นหากมาร์คจนถึงเวลาแล้ว ก็ควรทิ้งไม่ควรมาร์คต่อให้เกิดปัญหาผิวแห้งนะคะ เมื่อมาร์คหน้าเสร็จแล้ว ไม่ว่ามาสก์ที่ไม่ต้องล้างหน้า ก็ทาครีมต่อได้เลย หรือมาร์คที่ต้องล้างหลังมาร์ค หลังล้างหน้าเสร็จ จะเป็นช่วงที่รูขุมขนกำลังเปิดพร้อมรับการบำรุง ให้สาวๆ ทาครีมบำรุงต่างๆ ลงผิวได้เลยค่า จะยิ่งช่วยทำให้ครีมซึมลงผิวได้ดีมากขึ้นอีกด้วย จะยิ่งบำรุงผิวได้เริ่ดมากขึ้นนั้นเอง

มาส์ก มีกี่ประเภท และต่างกันอย่างไร

1. มาส์กโคลน

เหมาะกับผิวมันไปจนถึงผิวธรรมดา คนผิวหน้าแห้งจะไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ ระยะเวลาที่เหมาะสม: ประมาณ 5-15 นาที เพราะนั่นหมายความว่าโคลนกำลังดูดน้ำออกจากผิวหน้ามากจนเกินไป โคลนจะดูดเอาความมัน และสิ่งสกปรกหรือฝุ่นละอองที่อุดตันอยู่ตามรูขุมขนของเราออกไปเมื่อโคลนจับตัวกันแห้ง มีคุณสมบัติในการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก

2. มาส์กแบบลอก

เหมาะกับผิวแห้ง และผิวที่มีริ้วรอย ระยะเวลาที่เหมาะสม: ประมาณ 15-30 นาที ทำให้ผิวกระชับขึ้นและช่วยให้เลือดไหลเวียนแต่สารบำรุงผิวมาสก์ประเภทนี้จะมีการดูดซึมไม่ดีเท่ากับมาสก์ธรรมชาติอย่างมาส์กโคลน

3. มาส์กร้อน

เหมาะกับผิวมัน  ระยะเวลาที่เหมาะสม: ประมาณ 10 นาที โดยส่วนใหญ่แล้วมาสก์ชนิดนี้จะต้องใช้มือค่อยๆ ถูนวดเป็นวงทั่วใบหน้าระหว่างที่ใช้มาสก์ไปด้วย ซึ่งเป็นคุณสมบัติพิเศษของมาสก์ประเภทนี้ คือช่วยทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก และจะช่วยเปิดรูขุมขน ทำให้สิ่งอุดตันตามรูขุมขนหลุดออกมา หลังจากที่เราล้างมาสก์ออกทำให้ผิวชั้นนอกเกิดการรับเอาออกซิเจนเข้าสู่ผิวมากขึ้นมาสก์ชนิดนี้เวลาที่สัมผัสกับผิวแล้ว อุณหภูมิของมาสก์จะค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้น

4. มาส์กครีม

เหมาะกับผิวหน้าแห้งถึงผิวธรรมดา และผิวที่ต้องการความชุ่มชื้น ระยะเวลาที่เหมาะสม: ประมาณ 5-10 นาที สำหรับกรณีเร่งรีบ หรือมาส์กแบบข้ามคืนเพื่อกู้ผิวที่พัง เนื้อครีมจะทำให้สารบำรุงสามารถเข้าไปบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกมาสก์ประเภทนี้จะมีส่วนผสมของสารที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว จะช่วยทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ นุ่ม ชุ่มชื้นขึ้น 

5. มาส์กน้ำมัน

เหมาะกับผิวแห้งและผิวที่มีริ้วรอย ระยะเวลาที่เหมาะสม: ประมาณ 5-10 นาที จะอุดมไปด้วยน้ำมันสกัดจากวิตามินอี ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นแก่ผิว ทำให้ผิวเนียนนุ่มขึ้น วิตามินซี ช่วยกระชับผิว วิตามินดี มีฤทธิ์ในการรักษาปัญหาผิวน้ำมันโอลีฟ หรือวิตามินชนิดน้ำมัน ซึ่งจะประกอบด้วย วิตามินเอ ช่วยในการทำให้ผิวเนียนนุ่มมาสก์ประเภทนี้จะนิยมทำกันในสปา โดยน้ำมันที่นำมามาสก์นั้นส่วนใหญ่จะเป็นน้ำมันอัลมอนด์

6. มาส์กชีท

มาส์กที่ได้รับความนิยมมากๆ ในตอนนี้ เป็นแผ่นมาส์กหน้าสำเร็จรูป ที่พอดีกับใบหน้าเรา โดยเคลือบเซรั่ม สารสกัดบำรุงผิวนานาชนิดไว้บนแผ่นมาส์ก เน้นสร้างความชุ่มชื่นให้กับผิว ริ้วรอยจางลงผิวเต่งตึง เรียบเนียนขึ้น ใช้สะดวก เพียงฉีกซองแล้วมาส์กลงหน้าได้ทันที เหมาะสำหรับในช่วงเวลาที่เร่งรีบ เพราะใช้เวลาบำรุงเพียง 20 นาทีเท่านั้น

7.มาส์กธรรมชาติ

ขึ้นอยู่กับสรรพคุณและสารอาหารของสมุนไพร พืชและผลไม้แต่ละชนิดโดยวิธีใช้ก็จะขึ้นอยู่กับสูตรมาสก์หน้าแต่ละชนิด และจะมีคุณสมบัติหลากหลาย อย่างพวกแตงกวา มะละกอ หรือข้าวโอ๊ต เป็นต้น ที่ระยะเวลาที่เหมาะสม : ประมาณ 5-10 นาที

ควรเลือกมาส์กหน้าให้เหมาะกับสภาพผิว เพื่อลดการเกิดปัญหาผิวตามมา

สิ่งที่สำคัญที่สุดเป็นอันดับแรกก่อนการมาส์กหน้าหรือการเลือกสกินแคร์เข้ามาเพื่อบำรุงผิว ก็คือเราจะต้องรู้จักผิวตัวเองให้ดีเสียก่อน เพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว และช่วยส่งเสริมผิวได้จริง ไม่ใช่นั้นละก็อาจเกิดผลเสียได้มากกว่าผลดีนั่นเอง

อ่านเพิ่มเติม : ฟื้นฟูผิวให้เเข็งเเรง แก้ปัญหาหน้าหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ

kanyarat sakunkim

kanyarat sakunkim

2 comments

Andy Anderson

Andy Anderson

March 12, 2022

Mary Williams

Mary Williams

March 12, 2022

Tell us what you think!

You are replying to Mary Williams. You can post a new comment instead.

บทความที่เกี่ยวข้อง