ทำอย่างไรไม่ให้เเก่เร็ว

อายุที่เพิ่มขึ้น ผิวหนังมีความหย่อนคล้อย และอาจมีริ้วรอยบนใบหน้าทำให้ดูมีผิวหน้าแก่ก่อนวัย โดยมีสาเหตุมาจากปัจจัยภายในหลายอย่าง ( old )

old

ความแก่ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แม้ว่าในยุคปัจจุบันจะมีเทคนิคทางด้านผิวหนังภายนอกมาเป็นตัวช่วยมากขึ้น แต่ความแก่จากข้างในก็เป็นสิ่งที่ยังคงเดินหน้าต่อไปตามเวลา

ปัจจัยที่ทำให้หน้าแก่ก่อนวัย

อายุที่เพิ่มมากขึ้น

ทำให้ไขมันที่สะสมใต้ผิวหนังบริเวณต่างๆ เช่น หน้าผาก แก้ม รอบดวงตา และรอบปาก เริ่มลดลง รวมถึงร่างกายลดการผลิตคอลลาเจนใหม่ถึงปีละ 1% ทำให้เมื่ออายุมากขึ้นผิวจะค่อยๆ ขาดความชุ่มชื้น, ขาดความเต่งตึง, ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น และดูหย่อนคล้อย

ไม่ปล่อยให้ผิวได้พัก จากการแต่งหน้า

ปัจจัยต่อมาที่ส่งผลให้หน้าแก่ก่อนวัยนั้น เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ใครหลายคนมองข้ามไป เพราะนั่นคือการไม่ปล่อยให้ผิวได้พัก จากการแต่งหน้าเลย โดยเครื่องสำอางที่เราทาทุกวันนั้น จะไปอุดตันรูขุมขน ทำให้ผิวไม่ได้หายใจ ซึ่งเป็นสาเหตุให้หน้าแก่ก่อนวัยได้

พักผ่อนไม่เพียงพอ

เวลาที่นอนหลับนั้น ร่างกายจะสร้างฮอร์โมนขึ้นมาเพื่อซ่อมแซม และกำจัดของเสียออกจากร่างกาย หากเรานอนไม่ตรงเวลา หรือนอนหลับพักผ่อนน้อยเกินไป ก็จะทำให้เสี่ยงต่อการมีหน้าแก่ก่อนวัยได้

ดื่มน้ำน้อย

หากว่าคุณดื่มน้ำน้อย บอกได้เลยว่าคุณเสี่ยงต่อการมีหน้าแก่ก่อนวัยแน่นอน เพราะร่างกายของเรามีน้ำเป็นองค์ประกอบถึง 3 ใน 4 ส่วนด้วยกัน หากว่าร่างกายขาดน้ำไป เซลล์ย่อมเกิดการเหี่ยวย่น ไม่เต่งตึงและอิ่มฟูเหมือนอย่างที่เคย ดังนั้น ใครที่ไม่อยากหน้าแก่ก่อนวัย ต้องดื่มให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้วต่อวัน

ความเครียดสะสม

ความเครียดสะสมก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้หน้าแก่ก่อนวัย เพราะเวลาที่เราเครียด ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนแห่งความเครียด หรือคอร์ติซอลออกมา ซึ่งจะทำให้เซลล์นั้นถูกกระตุ้นให้ตึงเครียด และเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ถึงแม้ว่าฮอร์โมนคอร์ติซอลจะถูกกำจัดออกจากร่างกายได้เอง แต่หากมีการผลิตออกมาบ่อยๆ ย่อมส่งผลให้หน้าแก่ก่อนวัยได้เช่นกัน

ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับสูบบุหรี่

การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป จะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ และความชุ่มชื้นในชั้นผิว ส่งผลให้ผิวแห้ง และเกิดรอยเหี่ยวย่นได้ง่ายขึ้น ส่วนการสูบบุหรี่นั้น นอกจากจะเป็นการทำลายระบบทางเดินหายใจแล้ว ยังทำให้ริมฝีปากคล้ำ และมีรอยย่นรอบริมฝีปากได้อีกด้วย ถ้าใครไม่อยากหน้าแก่ก่อนวัย ต้องลด ละ เลิกตั้งแต่ตอนนี้

เเสงแดด

ปัจจัยแรกที่ทำให้หน้าแก่ก่อนวัยนั้นมีสาเหตุมาจากแสงอาทิตย์ หรือแสงสีฟ้าจากหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แต่แสงแดดจะส่งผลกระทบรวดเร็ว และรุนแรงมากกว่าแสงสีฟ้า เพราะแสงแดดจัดจะเข้าไปทำลายคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ชั้นผิวหนังของคุณให้เสื่อมสภาพลงได้ ทำให้เกิดริ้วรอย ฝ้า กระ ที่ไม่พึงประสงค์ตามมาในภายหลังแสงแดด ตัวการที่ร้ายที่สุดของผิว เพราะไม่ใช่แค่ทำให้หน้าแก่ก่อนวัยเท่านั้น แต่แสงแดดยังทำร้ายเม็ดสีผิวให้เกิดผิวหน้าหมองคล้ำ เพราะรังสีอัลตรา จะเข้าไปเร่งกระบวนการเพิ่มอายุของผิว และยังทำร้ายลึกลงไปถึงชั้นผิว ทั้งคอลลาเจน อีลาสติน ทำให้ผิวเสียความยืดหยุ่นไปนั่นเอง 

ความร้อน

หากไม่ได้ถูกแสงแดดโดยตรง แต่ไปอยู่หน้าเตาร้อน ๆ  จริง ๆแล้วการอยู่กับความร้อนนั้นมันไม่ได้ก่อให้เกิดความแก่เร็วแบบตรงไปตรงมาเหมือนแสงยูวี แต่มันทำให้เกิดการกระตุ้นเม็ดสี ฉะนั้นแล้วแน่นอนว่าการสัมผัสความร้อนสิ่งที่ตามมาก็คือกระ คือฝ้า ซึ่งก็นับว่าเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิด หน้าแก่ ได้

ทานของหวาน

การรับประทานของหวานเยอะ ๆ ทำให้เกิดริ้วรอยใบหน้าแก่ก่อนวัยได้จริง สาเหตุหลักก็มาจากน้ำตาลไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลเพรียว ๆ ที่ผสมอยู่ในของหวาน หรือเป็นน้ำตาลที่มาจากการย่อยในแป้งขัดขาวที่มาจากกลุ่ม เส้นก๋วยเตี๋ยว ขนมเค้ก ขนมปัง น้ำตาลที่รับประทานเข้าไปไม่ว่าจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายในรูปของกลูโคสหรือฟรุตโตส เมื่อได้เข้าไปในกระแสเลือดปริมาณมาก ๆ ชนิดที่ว่ามากเกินกว่าที่ร่างกายจะนำไปใช้พลังงานทั้งหมด น้ำตาลเหล่านี้ก็จะไปทำปฏิกิริยา ที่เรียกว่า glycation กับโครงสร้างโปรตีน ไขมัน ดีเอ็นเอ และเกิดเป็นสาร Age ซึ่งทำให้โครงสร้างไขมันและโปรตีนผิดรูปและเสียการทำงานไป

การทาครีมกันแดดทุกวันช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแก่ก่อนวัยได้

เคล็ดลับป้องกันหน้าแก่ก่อนวัย

ทาครีมกันแดดทุกวัน

ด้วยการทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป รวมถึงการสวมเสื้อผ้าที่มิดชิด หรือสวมหมวกเมื่อต้องออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง สามารถป้องกันการทำร้ายผิวได้ 

หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่

หากไม่อยากมีผิวที่ดูแก่กว่าอายุ ควรงดดื่มแอลกอฮอล สูบบุหรี่ รวมถึงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เพราะการดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายขับน้ำออกมากกว่าปกติ ทำให้หน้าหมองคล้ำ ไม่สดใส

พักผ่อนให้เพียงพอ

ควรนอนก่อน 4 ทุ่ม และนอนหลับให้ได้ 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้พัก และอวัยวะภายในได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ รวมถึงผิวจะได้มีการสร้างปละผลิตเซลล์ผิวใหม่ หน้าแก่ก่อนวัย หรือผิวเสื่อมสภาพเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะเมื่ออายุมากขึ้นผิวย่อมเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งดูแลผิวอย่างถูกต้องเหมาะสมเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิว 

พยายามรักษา Growth Hormoneคือฮอร์โมนชะลอความแก่ Growth Hormone จะหลั่งออกมาซ่อมตัวเรา เฉพาะเวบาที่เราหลับ การหลับลึกถึงจะมี Growth Hormone ออกมา ในเชิงทฤษฎี Hormone ตัวนี้จะหลั่งออกมาในช่วงเวลา 00:00 น.- 01:30 น. ของแต่ละวัน

ผ่อนคลายความเครียด

สามารถผ่อนคลายความเครียดได้ง่าย ๆ โดยการเดินทางเที่ยวพักผ่อน ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือเล่นโยคะ หากิจกรรมที่ชื่นชอบทำ รวมถึงการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยผ่อนความเครียดได้เป็นอย่างดี

ล้างหน้าให้ถูกวิธี

การล้างหน้าให้ถูกวิธี ควรล้างหน้าอย่างเบามือ และทะนุถนอมผิวหน้า ไม่ถูหน้าแรงเกินไป เพราะจะไปทำลายอีลาสตินในผิว ซึ่งจะส่งผลให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ทำให้มลภาวะเข้าสู่ผิว และเกิดริ้วรอยในที่สุด

การที่หน้าเหี่ยวขึ้นไม่ได้มีเพียงแค่ปัจจัยเรื่องอายุเท่านั้นที่เข้ามาทำลายความเต่งตึงของผิว แต่รวมถึงปัจจัยจากพฤติกรรมไม่ดีหลายๆ อย่างที่เราติดทำจนเป็นนิสัยด้วยเช่นกัน หากเราเลี่ยงที่จะทำนิสัยเหล่านี้ไปได้ และหมั่นบำรุง สร้างเกราะป้องกันให้ผิว เพียงเท่านี้ ผิวของเราก็จะคงความเรียบเนียน อ่อนนุ่ม อ่อนวัยไปกับเราได้นานแสนนาน

การนอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ ช่วยให้อวัยวะภายในได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทำให้ผิวเปล่งปลั่งได้

อ่านเพิ่มเติม : เรตินอลคืออะไร ใช้อย่างไรให้ปลอดภัยกับผิว

kanyarat sakunkim

kanyarat sakunkim

2 comments

Andy Anderson

Andy Anderson

March 12, 2022

Mary Williams

Mary Williams

March 12, 2022

Tell us what you think!

You are replying to Mary Williams. You can post a new comment instead.

บทความที่เกี่ยวข้อง