โยเกิร์ตกินตอนไหน ช่วยอะไรได้บ้าง

โยเกิร์ตนอกจากมีรสชาติอร่อย ยังมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายโดยเฉพาะผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก เเละยังดีต่อระบบขับถ่าย ( yoghurt )

คนที่ต้องการคุมน้ำหนัก การกินโยเกิร์ตช่วยได้เเละดีต่อระบบขับถ่าย มีแบคทีเรียที่ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเเละยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันด้วย

โยเกิร์ต กินตอนไหนช่วยอะไรได้บ้าง?

เป็นที่ทราบกันดีถึงคุณประโยชน์ของ โยเกิร์ต ที่มีต่อร่างกายโดยเฉพาะผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือควบคุมอาหารเพื่อรักษาสัดส่วน โดยโยเกิร์ต เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนม มีโปรตีนมากกว่านมถึงร้อยละ 20 แล้วยังมีวิตามินและเกลือแร่อยู่หลายชนิดด้วยกัน ทั้งวิตามินบี วิตามินดี และแคลเซียม แถมยังมีโพรไบโอติกส์อยู่มาก

โยเกิร์ตทำมาจากอะไร 

โยเกิร์ตทำมาจากการนำน้ำนมของสัตว์และพืชไปหมักกับแบคทีเรีย ซึ่งจะต้องเป็นแบคทีเรียที่ผลิตกรดแลกติกได้เท่านั้น เนื่องจากกรดแลกติกจะทำให้โปร

ตีนในน้ำนมเสียสภาพและจับตัวตกตะกอนจนกลายเป็นเนื้อโยเกิร์ตที่เรารับประทานกันอยู่ทุกวันนี้

โดยหลัก ๆ แล้ว โยเกิร์ตที่รับประทานกันอยู่ในทุกวันนี้จะมีด้วยกัน 3 ประเภทหลัก ดังนี้ 

1. โยเกิร์ตธรรมชาติ  คือโยเกิร์ตที่ผลิตจากนมโคสด 100% ไม่มีการปรุงแต่งด้วยส่วนผสมอื่น รวมไปถึงขั้นตอนการผลิตที่ไม่มีสารเคมีเจือปนใดๆ

2. โยเกิร์ตที่ปรุงแต่งด้วยผลไม้ คือโยเกิร์ตที่มีการใส่เนื้อผลไม้หรือน้ำเชื่อมรสผลไม้ลงไปปั่นพร้อมกับโยเกิร์ตด้วย

3. โยเกิร์ตที่ปรุงแต่งด้วยสารสังเคราะห์  คือโยเกิร์ตที่ผ่านปรุงแต่ง โดยไม่จำเป็นต้องเป็นผลไม้อย่างเดียว อาจเป็นรส สี หรือกลิ่น ที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของเรา

ประเภทของโยเกิร์ต

• โยเกิร์ตแท้ เนื้อครีมมีลักษณะกึ่งแข็งกึ่งเหลว รสชาติอมเปรี้ยว เพราะทำจากนมทั้งชนิดไขมันปกติ ไขมันต่ำ และปราศจากน้ำตาล
• กรีกโยเกิร์ต เนื้อโยเกิร์ตจะมีลักษณะแข็งมากกว่าโยเกิร์ตแท้ เพราะเอาความชื้นออก มีโปรตีนสูงกว่าโยเกิร์ตปกติถึงสองเท่า
• โยเกิร์ตชนิดดื่ม โยเกิร์ตที่เติมน้ำหรือของเหลวอื่นเข้าไป มีรสชาติหวาน และมีน้ำตาลมากกว่าโยเกิร์ตทั่วไป

โยเกิร์ต ประโยชน์ที่คุณควรรู้ก่อนทาน

• อุดมไปด้วยโปรตีนมากกว่านมทั่วไป 20% ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
• เสริมสร้างประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ไม่ป่วยง่าย ร่างกายแข็งแรง
• มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่ช่วยบำรุงสารเคลือบฟัน ช่วยลดกลิ่นปาก
• มีซิงค์ ช่วยบำรุงผิวไหม้ให้หายเร็วยิ่งขึ้น
• มีแบคทีเรียหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยป้องกันเชื้อโรคที่เป็นอันตรายต่อลำไส้, ช่วยบรรเทาอาการปวดท้องและท้องเสีย
• มีกรดที่ผลิตโดยแบคทีเรียแลคโตบาซิลลัส ช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อราที่อาจเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงที่เป็นโรคเบาหวานและผู้ที่มีแนวโน้มภาวะเชื้อราในช่องคลอด
• มีโพแทสเซียมช่วยบำรุงเส้นประสาทและสมดุลของของเหลวในร่างกาย
• มีโพแทสเซียมและแมกนีเซียม ช่วยปรับระดับความดันโลหิตให้สมดุล
• มีแบคทีเรียชนิดดี ช่วยเสริมสร้างความสามารถทางความคิดและอารมณ์ 
• ป้องกันอาการปวดเรื้อรัง และความผิดปกติของระบบประสาท 
• มีกรดแลคติกช่วยย่อยแคลเซียมให้ง่ายขึ้น ร่างกายจึงดูดซึมแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้น

โยเกิร์ตมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไรบ้าง

โยเกิร์ตช่วยลดความอ้วน เหมาะกับคนที่อยากคุมน้ำหนัก

โยเกิร์ต เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน นอกจากนี้ยังให้แคลเซียมสูง ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ผู้หญิงจำนวนมากกินโยเกิร์ต 1-2 ครั้งต่อวัน ส่วนใหญ่มักจะกินเป็นมื้อเช้า หากมื้อไหนกินอาหารเยอะเป็นพิเศษก็จะกินโยเกิร์ตตามเข้าไปเพื่อให้แคลอรีในร่างกายมีความสมดุล ช่วยเพิ่มพลังงานให้เเก่ร่างกาย อิ่มนาน ทำให้ความอยากอาหารลดน้อยลง

เสริมสร้างกล้ามเนื้อ

ระหว่างที่เรานอนหลับร่างกายจะมีกระบวนการเสริมสร้างและฟื้นฟูส่วนที่สึกหรอ ซึ่งการกินโยเกิร์ตก่อนนอนก็จะช่วยเสริมโปรตีนให้ร่างกายดึงไปเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

ลดระดับคอเลสเตอรอล

บางงานวิจัยเผยว่าโยเกิร์ตอาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีระดับไขมันในเลือดสูง เช่น การศึกษาในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 จำนวน 44 คนที่มีไขมันชนิดไม่ดีสูง ด้วยการให้รับประทานโยเกิร์ตโปรไบโอติกที่ประกอบด้วยแลคโตบาซิลลัสแอซิโดฟิลัสและไบฟิโดแบคทีเรียมแลคติส วันละ 300 กรัม นาน 8 สัปดาห์ เทียบกับการรับประทานโยเกิร์ตธรรมดา ปรากฏว่ากลุ่มที่บริโภคโยเกิร์ตโปรไบโอติกมีสัดส่วนระหว่างไขมันไม่ดีต่อไขมันดีมากขึ้น โดยมีระดับไขมันดีเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ไม่พบการเปลี่ยนแปลงของไขมันไตรกลีเซอไรด์และไขมันคอเลสเตอรอลโดยรวม

ลดกลิ่นปาก รักษาสุขภาพเหงือกและฟัน

มีงานวิจัยออกมาว่าการรับประทานโยเกิร์ตประมาณวันละ 90 มิลลิลิตร โดยแบ่งรับประทานวันละ 2 ครั้ง นาน 6 สัปดาห์ มีประโยชน์ต่อการลดกลิ่นปากที่เกิดจากการสะสมของสารที่ทำให้เกิดกลิ่นในปาก เช่น ไฮโดรเจน ซัลไฟด์ โดยคาดว่าผลลัพธ์ดังกล่าวมีสาเหตุมาจากแบคทีเรียที่มีชีวิตในโยเกิร์ต โดยเฉพาะแบคทีเรียสเตปค็อกคัส เธอร์โมฟิลัสและแลคโตบาซิลลัสบัลการิคัส ที่อาจมีคุณสมบัติช่วยลดกลิ่นปากจากการสะสมของแบคทีเรียในปากได้

บำรุงผิวหน้า

สูตรบำรุงผิวหน้าให้เนียนนุ่มและขาวใสยอดนิยมและเชื่อว่าได้ผลดี คือการใช้โยเกิร์ตธรรมชาติพอกหน้าแล้วล้างออก สำหรับข้อพิสูจน์ในด้านนี้ การศึกษางานหนึ่งเผยผลลัพธ์จากการใช้มาส์กหน้าโยเกิร์ตซึ่งใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ โดยพบว่ามาส์กหน้าโยเกิร์ตช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ความสว่างใส และความหยืดหยุ่นให้แก่ผิวหน้าส่วนต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี และแม้ผลการศึกษานี้จะยังไม่สามารถยืนยันได้อย่างแน่ใจ แต่การใช้โยเกิร์ตพอกหน้าก็น่าจะเป็นอีกวิธีที่ไม่ยุ่งยากและปลอดภัย ทั้งนี้ผู้ที่รักการบำรุงผิวหน้าทั้งหลายควรลองทำตามอย่างเหมาะสมและระมัดระวังการแพ้หรือระคายเคืองจากการใช้

แก้ท้องเสีย

หลายคนยังไม่รู้ว่านอกจากโยเกิร์ตจะแก้ท้องผูกแล้ว ยังแก้ท้องเสียได้อีกด้วย โดยคนที่ท้องเสียเป็นเพราะมีเชื้อจุลินทรีย์อยู่ในลำไส้ แต่เชื้อจุลินทรีย์ในโยเกิร์ตเกิดมาเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียชนิดทั้งหลาย การกินโยเกิร์ตจึงทำให้อาการท้องเสียของคุณทุเลาอย่างรวดเร็ว ทำให้ถ่ายน้อยลงหรือหยุดถ่าย

 ช่วยให้นอนหลับสบาย 

โยเกิร์ตมีกรดอะมิโนทริปโตเฟน  ที่ร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นเซโรโทนิน ฮอร์โมนที่ช่วยให้อารมณ์ผ่อนคลาย และเมลาโทนิน ฮอร์โมนที่ช่วยให้นอนหลับ ทำให้คุณนอนหลับสบาย ผ่อนคลาย และช่วยลดความเครียด นอนหลับง่ายขึ้น

การทานโยเกิร์ตเป็นอีกหนึ่งทางเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ การทานโยเกิร์ตเป็นประจำ ช่วยส่งผลดีต่อระบบขับถ่าย ผิวพรรณ การนอนหลับ และการทำงานของสมองให้ดีขึ้น

อ่านเพิ่มเติม : ทานมื้อเย็นอย่างไรให้ไม่อ้วน